++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

MYOTHERAPY นวดนี้เพื่อคนออฟฟิศ

โด

วิถีชีวิตของคนทำงานออฟฟิศที่มีรูปแบบการทำ งานแบบซ้ำๆ
ไม่ว่าจะเป็นอิริยาบถการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน
หรือการเข้าประชุมที่มีแต่ความเครียดเป็นเวลานานๆ
และต้องทำงานยุ่งกับตัวเลข
รวมถึงการที่ต้องสะพายกระเป๋าใบใหญ่หรือหิ้วคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไปพบลูกค้า
ส่งผลให้คนทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่ มีอาการปวดเมื่อยตลอดเวลาทั้งๆ
ที่อายุก็ยังไม่มาก

ขณะเดียวกัน พฤติกรรมการทำงานดังกล่าว
นานวันเข้าก็นำไปสู่อาการอื่น เช่น ปวดไมเกรน ปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง
รวมถึงอาการนอนไม่หลับ หรือหลับและตื่นบ่อย
ตอนเช้ามีอาการมึนศีรษะไม่สดชื่น

วิภาพร สายศรี แพทย์อายุรเวทประจำ DOCTORCARE
คลินิกได้ศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตในที่ทำงานของผู้ป่วย และพบว่า 5
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง ในที่ทำงาน คือ 1.
พฤติกรรมการสะบัดคอหรือหลังให้มีเสียงดัง เพราะเชื่อว่าทำให้หายเมื่อย
แต่ความจริงพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ข้อต่อกระดูกหลวม
2.การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ต่อเนื่องกันเกิน 2 ชั่วโมง
เพราะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า และสะบักเกร็งตัวมากเกินไป
3.การนั่งไขว่ห้างเวลาทำงาน
เพราะส่งผลต่อการเกร็งกล้ามเนื้อหลังทำให้ปวดหลังส่วนล่าง
4.การใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในที่ทำงาน แทนการใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
เพราะต้องก้มคอและเกร็งแขนมาก และ 5.การสะพายกระเป๋าใบใหญ่ๆ
และมีน้ำหนักมาก รวมไปถึงการพกพาโน้ตบุ๊กไปด้วยทุกที่และถือเป็นเวลานาน
ส่งผลต่อกล้ามเนื้อไหล่เกิดอาการเกร็ง และเกิดอาการปวดไหล่

ด้วยเหตุดังกล่าว
ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องหันไปแก้ปัญหาความปวดเมื่อยด้วยการใช้บริการสปา
นวดแผนโบราณ และใช้ยาแก้ปวด หรือยาคลายกล้ามเนื้อเป็นประจำ
แต่อาการดังกล่าวยังคงรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง

วิภาพร ให้ข้อมูลต่อว่า ขณะนี้ได้มีการพัฒนาโปรแกรม MYOTHERAPY
ซึ่งเป็นโปรแกรมการดูแลกล้ามเนื้อบำบัดอาการที่เกี่ยวข้องกับการทำงานออฟฟิศ
และการใช้คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ โดยหลังโปรแกรมการบำบัดเพียง 45 นาที
จะทำให้มีความรู้สึกสดชื่นแจ่มใส มีความคล่องตัวกระฉับกระเฉง
โดยไม่มีอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อมารบกวน

"โปรแกรม MYOTHERAPY เป็นโปรแกรมพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล
ทำให้วิธีการและขั้นตอนการบำบัดของแต่ละคนแตกต่างกันไป เนื่องจากปัญหาและ
ตำแหน่งของการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
โดยโปรแกรมได้ ผสมผสานเทคนิคการคลายกล้ามเนื้อและการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่หลาก
หลายเพื่อประสิทธิภาพในการคลายตั้งแต่กล้ามเนื้อชั้นบน
จนถึงกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกสุดอย่างรวดเร็ว
ด้วยการทำงานร่วมกันของเทคนิคการรักษาแบบเฉพาะที่เหมาะสม"

สำหรับวิธีการนวดประกอบไปด้วย ยืดกล้ามเนื้อ (Stretching)
สำหรับการคลายกล้ามเนื้อมัดใหญ่ นวดแบบกดลึก (Deep Tissue Massage)
สำหรับกล้ามเนื้อส่วนบน และกล้ามเนื้อมัดเล็ก นวดกดจุด (Accupressure)
สำหรับการคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ลึกสุด และTrigger Point การทำ Joint
Manipulation สำหรับการทำให้ข้อต่อต่างๆ เคลื่อนไหวได้อย่างปกติ
ป้องกันแคลเซี่ยมมาเกาะหัวไหล่และเข่า
การออกแบบท่าบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน (Exercise Prescription)
ที่ถูกออกแบบขึ้นสำหรับคุณ เพื่อการป้องกันการกลับมา
ของการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

วิภาพร ให้คำแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า ในการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์
ควรวางแขนตั้งแต่ศอกลงไปถึงข้อมือไว้บนโต๊ะเวลา ใช้คีย์บอร์ด
และยืดกล้ามเนื้อประมาณ 10 นาที
เมื่อการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันสองชั่วโมง ใช้หมอนรองบริเวณหลัง
เวลานั่งเก้าอี้สำนักงาน เพื่อป้องกันการปวดหลัง
และเมื่อมีอาการปวดเมื่อย ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ
ควรใช้วิธีการบริหารกล้ามเนื้อ อาทิ ว่ายน้ำ โยคะ ฯลฯ

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000074576

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น