ค่านิยมใหม่เก่งแล้วโกงเป็นเรื่องปกติ ฮิตพูดไทยคำอังกฤษคำ เลียนแบบโฆษณา
ละคร ใช้ตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้สิ่งฟุ่มเฟือย ระบุชินชากับภาพข่มขืน
ชี้เพลงไทย 90 เปอร์เซ็นต์ แสดงความรักแบบไร้เหตุผล
และจากสถิติพบเด็กไทยเสียตัวมากขึ้น
ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
บรรยายพิเศษเรื่อง ถอดรหัสปัญหาเด็กและเยาวชนไทยในมิติวัฒนธรรม จัดโดย
ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมว่า
ปัจจุบันปัญหาเด็กและเยาวชนไทยเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก
ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า ปัญหาของเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบัน มี 5 มิติ
ได้แก่ 1.ปัญหาขาดศีลธรรมและรักษาวัฒนธรรม ไทย ซึ่งผลการวิจัยระบุว่า
เด็กไทยจะมีค่านิยมใหม่ คิดว่าถ้าเก่งแล้วโกง ฉลาดแกมโกง
เป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาคนไทยยอมรับได้
สภาพสังคมและวัฒนธรรมไทยเป็นเรื่องที่เชย
การพูดไทยคำอังกฤษคำเป็นเรื่องที่เด็กไทยนิยม 2.เรื่องการบริโภค
เด็กไทยมีค่านิยมการบริโภค เลียนแบบสื่อ โดยเฉพาะละคร โฆษณา
ซึ่งมักนำเสนอเนื้อหา
รูปภาพเพื่อสร้างความต้องการทำให้ผู้บริโภคคิดว่าตัวเองมีปัญหา
และจำเป็นจะต้องหาสินค้ามาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง ทั้งๆ
ที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีปัญหา จึงทำ
ให้เด็กไทยเกิดพฤติกรรมความอยากได้อยากมีสินค้าใหม่ล่าสุด
บางคนถึงกับต้องกู้หนี้ยืมสิน
หรือใช้ตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้เงินและนำมาซื้อของฟุ่มเฟือย
ดร.วรัชญ์ กล่าวต่อว่า 3.การพนัน
ซึ่งเป็นภัยเงียบที่แฝงเข้ามาถึงตัวเด็กอย่างง่ายมาก โดยเฉพาะ
ทางหนังสือพิมพ์กีฬาต่างๆ
ที่มักจะนำเสนอข้อมูลของช่องทางการพนันกีฬาประเภทต่างๆ
เอาไว้ให้เด็กและเยาวชน สามารถเลือกใช้เป็นแนวทางการเล่นพนันได้
ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากที่สุดที่จะบ่อนทำลายอนาคตของเด็กไทยให้จมลง
เพราะเป็นการชี้โพรงให้เด็กเกิดความอยากได้ อยากมี ไม่รู้จักพอ
4.ใช้ความรุนแรง ทั้งทางด้านร่างกาย วาจา และจิตใจ เป็นผลมาจาก
การเล่นเกม ชมภาพยนตร์ ละคร ที่มีภาพ ภาษาที่มีความรุนแรง
ส่งผลให้เด็กเกิดความอาฆาต พยาบาท แก้แค้น เกิดพฤติกรรมความรุนแรงทางเพศ
มีการบังคับข่มขืน
และเมื่อมีการเสพสื่อดังกล่าวบ่อยครั้งก็จะกลายเป็นเรื่องชินชา ทั้งๆ
ที่เป็นเรื่องที่เสื่อมโทรมของสังคมไทย และ
5. ทัศนคติการแสดงออกทางเพศ
ปัจจุบันเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ขายง่าย โดยเฉพาะเรื่องการมีเซ็กซ์
การนำเสนอค่านิยมทางเพศ ซึ่งเห็นได้ว่า เพลงไทยกว่า 90%
เป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก
บางเพลงมีเป้าหมายการนำเสนอเนื้อหาที่ช่วยในการหาความรักแบบไร้เหตุผล
ทำให้พบสถิติเด็กไทยเสียตัวมากขึ้น และเป็นการร่วมรักแบบข้ามคืน
โดยที่ยังไม่รู้จักกันมากขึ้นด้วย
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000075017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น