++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

'"อันตราย(ในบ้าน)ใกล้ตัว"่ ใช้เครื่องทำโอโซนผิด...อาจตายได้ง่ายๆ นะครับ

เครื่องทำ OZONE ทำหน้าที่ในการผลิตก๊าซโอโซนออกมา
ซึ่งก๊าซโอโซนนี้จะทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อโรคและทำให้อากาศ(หรือน้ำ)
มีความสะอาดมากขึ้น โดยก๊าซโอโซนจะไปจับและทำปฏิกิริยาการเผาไหม้(เล็กๆ)
กับสิ่งที่ต้องการกำจัดแต่ของทุกอย่างมีคุณก็ต้องมีโทษด้วยหากใช้ผิดที่ผิดทาง
หลายท่านเข้าใจผิดในการเปิดเครื่องทำก๊าซโอโซนในขณะที่ตัวเองก็อยู่ในห้องนั้นด้วย
เพราะคิดว่าเครื่องทำก๊าซโอโซนทำหน้าที่คล้ายกับ "เครื่องกรองอากาศ"
ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง
เพราะตอนที่เครื่องทำก๊าซโอโซนทำงาน
จะผลิตก๊าซออกมาเรา(ซึ่งอยู่ในห้องนั้น) ก็จะหายใจเข้าไป
ก๊าซโอโซนก็จะถูกสูดเข้าไปเผาไหม้อวัยวะภายในของเรา
โดยจะมีอาการเริ่มแรกที่แห้งจมูก แสบตา คอแห้ง เป็นต้น หากสูดเข้าไปมากๆ
ก็จะเป็นอันตรายหนักได้เคยเห็นบางท่านที่มีเด็กอ่อนหรือเด็กทารก
อยากให้ห้องของเด็กมีความสะอาดมากๆ
จึงเปิดเครื่องทำก๊าซโอโซนไว้ในห้องเด็กที่เด็กนอนอยู่
นับว่าเป็นอันตรายจริงๆ ครับ
เพราะอวัยวะของทารกน้อยจะถูกก๊าซโอโซนที่เราเป็นคนเปิดเครื่องนั้น
เผาไหม้อวัยวะอยู่อย่างทรมานจึงอยากจะสรุปง่ายๆ ถึงวิธีการใช้คือ
อย่าเปิดเครื่องทำก๊าซโอโซนไว้ในห้องที่มีคน(หรือสัตว์เลี้ยง)
อยู่โดยเด็ดขาดครับ เพราะอันตรายจะเกิดขึ้นตลอดเวลาครับ
หลอดไฟในตู้เย็นดับ อย่าถอดออกเฉยๆ นะครับ
ตู้เย็นที่เราใช้อยู่ในบ้านทุกเครื่องจะมีหลอดไฟส่องสว่างเพียงพอให้เราหยิบของได้สะดวก
แต่หากเมื่อไรที่ดวงไฟดวงนี้เกิดเสียขึ้นมา
หลายท่านมักจะถอดเอาดวงไฟดวงนี้ออกไป
แล้วบางครั้งก็ลืมที่จะเปลี่ยนเอาหลอดไฟดวงใหม่เข้าไปแทน
ซึ่งการทำเช่นนี้นับเป็นอันตรายอย่างหนึ่งเหมือนกันครับ
เพราะเมื่อเราถอดดวงไฟออก ขั้วของหลอดไฟในตู้เย็นก็จะเปลือย
ความชื้นอันเป็นศัตรูตัวสำคัญของระบบไฟฟ้าก็จะวิ่งเข้าไปสะสมอยู่ที่ขั้วหลอด
แล้ววันดีคืนดี(หรือวันร้ายคืนร้าย)
ก็จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นในตู้เย็นของเรา
เป็นอันตรายกับระบบการทำงานของตู้เย็น
และเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินเราได้ง่ายๆ
ดังนั้นหากดวงไฟในตู้เย็นทางท่านเสีย อาจจะถอดออกมาดูรุ่นและยี่ห้อ
จดรายละเอียดเอาไว้แล้วก็ใส่ดวงไฟนั้นกลับเข้าที่เดิม(เพื่อป้องกันไม่ให้ขั้วไฟฟ้าในตู้เย็นขึ้น)
แล้วไปหาซื้อดวงไฟดวงใหม่มาเปลี่ยน
อันตรายจะถอยห่างจากตัวท่านไปอีกนิดหนึ่งครับ
อย่ากรอกดราโน่ลงในท่อบ่อยๆ
ดราโน่ เป็นชื่อที่เราเรียกสารเคมีที่เข้าไปทำปฏิกิริยากับเศษผงหรือไขมันที่ติดอยู่ในท่อของสุขภัณฑ์ต่างๆ
เวลาท่อระบายของเราอุดตัน หลายท่านก็จะไปซื้อผงเคมีนี้เทลงไป
ผงเคมีจะทำปฏิกิริยากับเศษอาหาร เส้นผม ไขมัน ฯลฯ
จัดการละลายทะลวงให้ท่อที่อุดตันอยู่กลับกลายเป็นท่อที่โล่งให้น้ำผ่านไปได้ง่ายขึ้น
แต่เพราะผงเคมีนี้เป็นตัวทำลายชั้นเยี่ยม
และจะเกิดควันพิษตามมาในขณะที่ทำปฏิกิริยา
ควันพิษนี้จะเป็นอันตรายอย่างหนึ่งหากเราสูดดมเข้าไปบ่อยๆ
แต่ที่เป็นอันตรายจริงๆ(แม้จะเป็นอันตรายทางอ้อม)
ก็คือผงเคมีนี้จะวิ่งเข้าไปสู่บ่อบำบัดของเรา
ซึ่งในบ่อบำบัดของเราจะมีบักเตรีอาศัยอยู่
บักเตรีเหล่านี้จะช่วยในการย่อยสลายของเสียที่อยู่ในบ่อบำบัดของเรา
เมื่อผงเคมีวิ่งเข้าไปผสมในบ่อบำบัดผงเคมีก็จะฆ่าทำลายบักเตรีที่ทำหน้าที่ย่อยสลายปฏิกูลของเรา
พอบักเตรีตายหมดก็ไม่มีใครมาช่วยย่อยสลายของเสีย
ของเสียปฏิกูลก็จะเกิดอาการ "เหม็น เหม็น เหม็น"
อันเป็นสิ่งที่เราไม่พึงปรารถนา และเป็นอันตรายกับเราทางอ้อมด้วยครับ
ดังนั้นการใช้สารเคมีสำหรับแก้ท่ออุดตัน แม้จะเป็นวิธีการที่สะดวกที่สุด
แต่ต้องระวัง "ความพอดี" ในการใช้งาน
มิเช่นนั้นคมมีดอีกด้านหนึ่งอาจจะบาดเราได้ครับ
อยากประหยัดไฟฟ้า ปิดแอร์ตอนเช้าแล้วเปิดหน้าต่าง อาจจะอันตรายก็ได้
หลายท่านที่ตื่นมาตอนเช้าแล้วต้องมาประหวัดไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ
จึงดับเครื่องปรับอากาศแล้วก็เปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศภายนอก
เป็นสิ่งที่พึงหลีกเลี่ยง เพราะตอนที่เราจะเปิดหน้าต่างนั้น
อากาศในห้องเรามีอุณหภูมิเย็นกว่าอากาศภายนอก
เมื่อเปิดหน้าต่างอากาศภายนอกที่ร้อนกว่าก็จะวิ่งเข้าสู่ภายในห้องเรา
แม้จะมีลมพัดเข้ามาทำให้เรารู้สึกสบายขึ้น
แต่เราอาจจะลืมไปว่า "ความชื้น"
ในอากาศภายนอกก็จะวิ่งเข้ามาในห้องเราด้วย(นึกภาพแก้วน้ำเย็นที่ใส่น้ำแข็งวางเอาไว้จะมีหยดน้ำมาเกาะที่รอบถ้วยแก้ว)
แล้วก็จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ หรือไปเกาะตามผ้าห่มที่นอน ผ้าม่าน
เฟอร์นิเจอร์ของเรา
เมื่อทำแบบนี้บ่อยๆ มีความชื้นเข้ามามากกว่าปกติ
เหล่าเชื้อโรคเชื้อราก็จะเกิดการสะสมและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ไม่นานก็เป็นอันตรายกับสุขภาพของเราได้โดยที่เราไม่รู้ตัว
ดังนั้นจึงแนะนำว่า หากจะปิดเครื่องปรับอากาศ
น่าจะรอจนกว่าอุณหภูมิของภายในห้องและภายนอกมีอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกันสักหน่อย(อาจจะเปิดพัดลมช่วย)
แล้วจึงจะเปิดหน้าต่าง
เพื่อไม่ให้ความชื้นเข้ามาสะสมในห้องนอนของเรา(โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าๆ
อากาศภายนอกจะมีความชื้นมากกว่าปกติ)
ทั้งนี้นอกจากเรื่องของเชื้อโรคเชื้อราแล้ว
การที่เรามีความชื้นสะสมอยู่ในห้องมากๆ
ยามเมื่อเรากลับเข้าห้องแล้วเปิดเครื่องปรับอากาศอีกครั้ง
เครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักมากกว่าปกติ
เพราะเครื่องปรับอากาศต้องใช้พลังงานในการรีดความชื้นถึง 50-70%
ของพลังงานทั้งหมดที่เครื่องปรับอากาศใช้พลังงาน
นอกจากจะไม่เป็นการประหยัดพลังงานช่วยชาติแล้ว
ยังทำให้เราต้องจ่ายค่าไฟฟ้าของบ้านเราเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
โดยคุณ :ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์

3 ความคิดเห็น:

  1. ก็แสดงว่า ถ้าเป็นเครื่องโอโซนวารีบำบัด ซึ่งต้องเปิดเครื่องตลอด 15 นาที ที่แช่น้ำก็ทำให้ โอโซนเข้าไปเผาไหม้อวัยวะภายในด้วยใช้หรือไม่

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 กรกฎาคม 2555 เวลา 21:51

    ไอสัสกุเปิดมาตกใจหมดเลย

    ตอบลบ
  3. ผมใช้เครื่องผลิตโอโซนของเทียนส์อยู่คับ ใช้ในรถ แค่เปิดไว้10 นาทีก็ทำให้กลิ่นอัพที่อยู่ในรถหายไป ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำหอมปรับอากาศใ้ห้เปลืองเลยครับ
    ใช้ไ้ด้ทั้งในน้ำในอากาศครับ แช่ผัก ล้างผลไม้ ฆ่าเชื้อโรคในหมู ในปลา ไม่เหลือครับฟองเยอะมากครับ

    *** ใครอยากลองใช้ติดต่อผมได้นะครับ จะนำ้เครื่องไปให้ลองครับ

    ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://tiensozone.blogspot.com/

    ตอบลบ