++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ดูแลร่างกายสไตล์ "ทีมชาติ"

"วาร์ป" - พนา เลิศเชิดชูพงศ์ หนุ่มน้อยสุดฟิต นักกีฬาคาราเต้-โดทีมชาติ
เมื่อเอ่ยถึง "นักกีฬา"
คนทั่วไปร้อยทั้งร้อยจะต้องคิดถึงบุคคลผู้มีความสามารถด้านการกีฬา
และมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ก็คือ
ในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กำลังระบาดอยู่นี้
นักกีฬาเองก็จำเป็นต้องดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษเช่นกัน
และในวันนี้เราก็มีเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลสุขภาพร่างกายสไตล์
"นักกีฬาทีมชาติ" มาฝากกัน

"โค้ชเด่น" - ธีวินทร์ วีระพิพัฒน์ ผู้ฝึกสอนนักกีฬาคาราเต-โด
ทีมชาติชุดใหญ่ บอกเล่าเคล็ดไม่ลับการดูแลนักกีฬาภายใต้ความรับผิดชอบ ว่า
อย่างแรกที่ทำคือนำนักกีฬาทุกคนไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็น
การป้องกันเสียชั้นหนึ่งก่อน จากนั้นก็เป็นเรื่องของการดูแลประจำวัน
การสังเกตอาการและความผิดปกติ
รวมถึงการให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวให้ปลอดภัยจากโรคดังกล่าว

"เรา ต้องระวังกันมากครับ
เพราะนักกีฬานี่ถ้าติดคนหนึ่งต้องติดหมดเลย
เพราะเขาจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเก็บตัว
เพราะต้องนอนรวมกันห้องละ 3 คน
ช่วงที่หวัดระบาดนี่เราต้องเข้มงวดมากกว่าปกติ
ใครเป็นอะไรนิดหน่อยต้องพาไปหาหมอก่อน
ของเรานี่หมอกีฬาจะอยู่ติดกันห้องซ้อมเลย
ใครเป็นอะไรก็จะพาไปตรวจทันทีไม่มีปล่อยทิ้งไว้"

ความสะอาดก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า โค้ชเด่นเล่าว่า
ชุมชนนักกีฬาซึ่งมีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
สิ่งที่เน้นมากที่สุดคือระวังการใช้ของร่วมกัน
โดยเฉพาะภาชนะใส่อาหารหรือน้ำ

"เรา ห่วงเรื่องหวัด ไม่ว่าจะหวัดธรรมดา หวัดใหญ่ หรือหวัด 2009
อย่างหนึ่งที่ป้องกันได้คือพยายามเตือนเราไม่ให้ใช้ของร่วมกัน
อย่างแก้วน้ำ เพราะถ้าเป็นหวัดแล้วเผลอกินน้ำแก้วเดียวกันก็ติดได้
ช่วงนี้ก็ต้องระมัดระวังและทำความสะอาดกันอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ

รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมกันในการซ้อมเช่นเรื่องของพวกเวต
เทรนนิงต่างๆ เมื่อซ้อมเสร็จในแต่และวันเราก็ต้องให้คนมาทำความสะอาดให้เรียบร้อย"

นอกจากนี้ ในเรื่องของการพักผ่อน
โค้ชเด่นอธิบายว่านักกีฬาเหล่านี้เป็นนักกีฬาก็จริงอยู่
แต่ชีวิตอีกภาคหนึ่งของพวกเขายังคงต้องรับภาระในบทบาทของนักศึกษาหรือคนทำ
งาน เมื่อเสร็จจากงานหรือการเรียนจึงจะมาซ้อมกีฬาได้
แต่การพักผ่อนก็เป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพที่สุดอย่างหนึ่ง
โดยเฉพาะช่วงนี้
ดังนั้นระยะนี้หน้าที่ที่เพิ่มมาของโค้ชเด่นนอกเหนือจากฝึกสอนแล้ว
เขายังต้องรับบทคล้ายๆ "พ่อบ้าน" ที่คอยต้อน "ลูกบ้าน"
นักกีฬาของเขาให้เข้านอนเร็วกว่าปกติด้วย

"เรา พยายามให้เขานอนได้ 6-8 ชั่วโมง นักกีฬาออกกำลังกายหนัก
หากพักไม่พอร่างกายจะอ่อนแอและป่วยง่าย ดังนั้น
การดูแลเรื่องการพักผ่อนก็สำคัญมากเช่นกัน

ด้าน "วาร์ป" - พนา เลิศเชิดชูพงศ์ หนุ่มน้อยสุดฟิต
นักกีฬาคาราเต้-โดทีมชาติบอกเล่าถึงการดูแลตัวเองในช่วงหวัด 2009
ระบาดหนักว่า โค้ชและทีมงานเป็นห่วงนักกีฬาทุกคนมาก
เรียกได้ว่ามีการประชุมให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคนี้
กันรายวันเลยทีเดียว

"โค้ชจะเตือนแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราคาดไม่ถึง
อย่างเรื่องพกร่ม โค้ชจะกำชับมา เพราะอาการแปรปรวน บางทีแดดออกจู่ๆ
ฝนก็ตก โค้ชจะย้ำมากไม่ให้ตากฝน
หรือหากเปียกก็ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ
เพราะหากเป็นหวัดก็อาจจะลุกลามไปเป็นหวัดใหญ่ 2009 ก็ได้
เรื่องหน้ากากและล้างมืออย่างที่รณรงค์กันอยู่ก็เตือนครับ

เรื่องการพักผ่อนก็จะมีการเตือนให้นอนเร็วกว่าปกติ
ซึ่งปกติเราจะนอนรวมกัน 3 คน บางครั้งโค้ชดูไม่ทั่วถึง เราก็จะดูแลกันเอง
อย่างคนหนึ่งนอนหลับ เราก็ต้องนอน เพราะไม่งั้นก็จะกวนเพื่อน
ทำให้เรานอนเร็วตามไปกันหมดโดยปริยาย เว้นให้แต่คนที่มีงานจริงๆ
หรือสอบต้องอ่านหนังสือ ซึ่งพวกนี้เราก็ต้องแจ้งโค้ชว่า เออ คนนี้สอบนะ
คนนี้เมื่อคืนดึกนะ
โค้ชก็จะดูแลเขาเป็นพิเศษเผื่อพักไม่พอแล้วอาจจะมีอาการไข้ได้"

ส่วนเรื่องอาหารการกิน วาร์ป เล่าว่า
ในทีมมีนักโภชนาการที่พร้อมจะให้คำแนะนำนักกีฬาทุกคนอย่างละเอียด
โดยนักกีฬาแต่ละคนจะรับประทานไม่เหมือนกัน
และในกรณีที่รับประทานมาจากข้างนอกก็จะต้องแจ้งนักโภชนาการว่ารับประทานอะไร
มาบ้าง นักโภชนาการก็จะปรับอาหารว่าควรเพิ่มอะไรและควรลดอะไร

"กิน ไม่เหมือนกันเลยสักคนครับ
แต่ที่เหมือนกันตอนนี้คือจะโดนเน้นหนักในเรื่องวิตามินครับ
ถ้าคนไหนกินผักกินผลไม้ถึงก็ไม่เป็นไร
แต่เวลานักโภชนาการสัมภาษณ์อาหารการกินในแต่ละวันของคนไหนแล้วพบว่ากินไม่
ถึง ก็จะมีการเรียกมาให้วิตามินเสริมเพื่อป้องกันหวัดครับ" วาร์ป อธิบาย


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000080044

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น