++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เรื่องกรดไหลย้อน... ที่ควรรู้/ผศ.นพ.ปารยะ อาศนะเสน แพทย์ด้านหู คอ จมูก

มีคนมากมายที่ต้องทรมานกับโรคกรดไหลย้อน
วันนี้เรามีข้อมูลที่ควรรู้มาฝากครับ

1.อาการเรอ คลื่นไส้ หรือมีน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาที่อก หรือคอ
เกิดจากความดันที่ช่องท้องเพิ่มมากขึ้น สาเหตุจาก
* กินอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ
* อาหารมีส่วนอย่างมาก
- ประเภทมันๆ ที่ปรุงด้วยการผัด และทอดทุกชนิด
จะย่อยยาก ทำให้ท้องอืดได้ง่าย
- ส่วนน้ำเต้าหู้และน้ำอัดลม จะทำให้เกิดแก๊สในช่องท้องมาก
- รวมทั้งชา กาแฟ
จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหารส่วนปลายหย่อน
- หากอยากดื่มนม ควรดื่มเฉพาะนมไร้ไขมัน (FAT= 0%)
ส่วนไข่ ควรกินเฉพาะไข่ขาว เนื่องจากไขมันในนมหรือไข่แดงนั้นย่อยยาก
จึงทำให้การเคลื่อนตัวของกระเพาะอาหารช้า
* น้ำหนักตัวที่เพิ่ม หรือเกินค่าปกติ
* ท้องผูก ทำให้ต้องเบ่ง เวลาถ่าย ผลตามมาคือ
ความดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น อาจต้องกินยาถ่ายช่วย
ซึ่งเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ควรแก้ที่ต้นเหตุโดยดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น
ดื่มแต่น้อย แต่บ่อยๆ
และกินผักผลไม้ที่มีกากให้มากขึ้นก็จะช่วยในเรื่องขับถ่ายได้
* ขาดการออกกำลังกาย จากการศึกษาพบว่า คนที่ออกกำลังกายแบบแอโรบิก
จะทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนตัวได้ดี และยังลดอาการท้องอืด จุก
เสียด แน่นท้อง นอกจากนี้ ยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือด ปอด หัวใจ
ทำงานดีขึ้น ลดระดับไขมันในเลือดเพื่อป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง
โดยออกกำลังกายต่อเนื่องวันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน เช่น
วิ่ง เดินเร็ว ขึ้นลงบันได ว่ายน้ำ ขี่จักรยานฝืดแบบปรับน้ำหนักใน
FITNESS เตะฟุตบอล เล่นเทนนิส แบดมินตัน หรือ บาสเกตบอล

2.เสียงแหบ
เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาไปสัมผัสสายเสียงที่อยู่ทางด้านหน้า
ทำให้สายเสียงบวม ปิดไม่สนิท เกิดลมรั่ว ทำให้มีเสียงแหบได้
สาเหตุที่มีเสียงแหบตอนเช้า เกิดจากเวลาเรานอน
กรดจะไหลได้ง่ายกว่าเวลาที่เรานั่งหรือยืน
สายเสียงจึงถูกกรดสัมผัสมากกว่าช่วงอื่นๆ ของวัน ทำให้ขณะตื่นมาตอนเช้า
มีเสียงแหบได้

3.ไอเรื้อรัง เกิดจากกรดไหลย้อนลงไปในหลอดลม
ทำให้เกิดภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ที่แย่กว่านั้น
บางรายอาจเกิดอาการหอบหืด โดยหลอดลมจะมีความไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น ของฉุน
ฝุ่น ควัน อากาศที่เปลี่ยนแปลงมากผิดปกติ
อาการไอหลังกินอาหารเกิดจากอาหารทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
จนกรดไหลลงไปในหลอดลมได้ ส่วนการที่ไอตอนกลางคืน หรือก่อนนอนมักเกิดจาก

* ห้องนอนอาจรก มีฝุ่นมาก เวลาสูดหายใจเข้าไป
จะไปกระตุ้นภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ทำให้ไอกลางคืนหรือไอช่วงเช้า
คล้ายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ จึงควรจัดห้องนอนให้โล่งและสะอาด

* อากาศในห้องนอนอาจเย็นเกินไป ควรพยายามหลีกเลี่ยงอากาศเย็น
โดยเฉพาะแอร์ พัดลมเป่า ถ้าต้องการเปิดแอร์
ควรตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้สูงกว่า 25 องศาเซลเซียส
เพื่อไม่ให้อากาศเย็นจนเกินไป ในกรณีที่ใช้พัดลมไม่ควรเปิดเบอร์แรงสุด
และควรให้พัดลมส่ายไปมา
ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง
ควรนอนอยู่ห่างจากเครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมพอสมควร
ไม่ควรเปิดแอร์หรือพัดลมจ่อ ควรให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้เพียงพอ เช่น
นอนห่มผ้า ถ้าจะให้ดี ควรใส่ถุงเท้า หรือผ้าพันคอเวลานอนด้วย
ในกรณีที่ไม่ชอบห่มผ้าหรือห่มแล้วชอบสะบัดหลุดโดยไม่รู้ตัว
ควรใส่เสื้อหนาๆ หรือใส่เสื้อ 2 ชั้น และกางเกงขายาวเข้านอน

4.อาการที่รู้สึกคล้ายมีก้อนในคอ หรือแน่นคอ หรือกลืนติดๆ ขัดๆ
หรือกลืนลำบาก คล้ายมีสิ่งแปลกปลอมในคอ
เกิดจากกรดไหลย้อนไปสัมผัสกับกล้ามเนื้อคอ ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว
และเกิดความรู้สึกดังกล่าว การกินยาคลายกล้ามเนื้อก่อนนอน
อาจช่วยให้อาการดังกล่าวลดน้อยลง บางรายอาจมีอาการ กลืนเจ็บ เจ็บคอ
แสบคอหรือปาก หรือแสบลิ้นได้

5.การที่มีเสมหะอยู่ในคอตลอด เกิดจากการที่กรดไหลขึ้นมา
สัมผัสกับต่อมสร้างเสมหะในลำคอ และกระตุ้นทำให้ต่อมดังกล่าวทำงานมากขึ้น
นอกจากนี้การที่กรดไปกระตุ้นเส้นประสาทในคอ อาจทำให้มีอาการคันคอ แสบคอ
เจ็บคอ หรือระคายคอได้

6.อาการเจ็บหน้าอก
เกิดจากกรดไหลย้อนขึ้นมาผ่านหลอดอาหารที่อยู่ในช่องอก
และกระตุ้นเส้นประสาทในหลอดอาหารทำให้มีอาการดังกล่าวได้
และเมื่อกรดไหลลงไปในหลอดลมและปอด อาจทำให้มีการอักเสบของปอดเป็นๆ หายๆ
ได้

7.อาการไอ สำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน
เกิดจากกรดไหลลงไปในหลอดลม ทำให้หลอดลมอักเสบ และมีการหดตัวของหลอดลม
ที่มักเป็นในเวลากลางคืน เนื่องจากเวลาเรานอน
กรดจะไหลได้ง่ายกว่าเวลาที่เรานั่งหรือยืน

8.การที่กรดไหลย้อนออกไปนอกหลอดอาหาร อาจไปถึง
* เยื่อบุจมูกทางด้านบน ทำให้มีอาการคัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล
หรือมีเสมหะไหลลงคอได้ หรือทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ของจมูกอยู่แล้ว
มีอาการแย่ลงได้
* ถ้ากรดขึ้นไปสูงถึงรูเปิดของหูชั้นกลางที่อยู่ที่โพรงหลังจมูก
อาจทำให้รูเปิดดังกล่าวบวม
ทำให้ท่อยูสเตเชียนที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางและโพรงหลังจมูกทำหน้าที่
ผิดปกติไป เกิดหูอื้อ เสียงดังในหู เป็นๆ หายๆ หรือมีอาการปวดหูได้
* ถ้ากรดไหลเข้าไปในช่องปาก อาจกระตุ้นต่อมสร้างน้ำลาย
ทำให้มีน้ำลายมากผิดปกติ หรือกรดไปกัดกร่อนฟัน
ทำให้เกิดฟันผุหรือเสียวฟันได้ การที่กรดไหลย้อนขึ้นมา
ทำให้พาเอากลิ่นอาหารในกระเพาะอาหารขึ้นมาด้วย
จึงอาจเป็นสาเหตุของการมีกลิ่นปากได้

9.โรคนี้หมอมิได้ให้ผู้ป่วยกินยาตลอดชีวิต
เมื่อผู้ป่วยปรับเปลี่ยนนิสัยและการดำเนินชีวิตประจำวันได้
ทั้งนิสัยส่วนตัว การกินอาหาร และนิสัยการนอน หมอจะค่อยๆ
ลดขนาดยาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดยาได้
สิ่งสำคัญคือไม่ควรปรับยากินเองในระยะแรก นอกจากหมอจะอนุญาต
ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นหลังให้การรักษาประมาณ 1-3 เดือน

ทั้งนี้ อาการจะดีขึ้นเร็วหรือช้า
อยู่ที่การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยเป็นสำคัญ และแม้ว่าหมอจะให้หยุดยาแล้ว
ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้จะหายขาด ผู้ป่วยอาจมีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000080053

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น