++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ระยะห่าง...ของหัวใจ

', '

วันเวลาที่ผ่านมา ชั่วระยะเวลาหนึ่งของชีวิต ผู้คนมากมายผ่านเข้ามา
บางคนผ่านมาเพียงเพื่อจะผ่านไป แต่กลับบางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น..
จากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนรู้จัก คนคุ้นเคย ล่วงเลย ไปถึงกลายเป็นคนรักกัน
เวลาเปลี่ยน
สถานการณ์เปลี่ยน สถานภาพทางความรู้สึกของเราก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย +*+


+*+ บางคนยังคงความเป็นคนแปลกหน้า ยังรักษาระยะห่างของการเป็นคนรู้จัก
คนคุ้นเคย หรือ คนรักกันไว้ได้อย่างคงที่....
บางคนเปลี่ยนแปลงจากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนคุ้นเคย...
จากคนเคยคุ้นกลายมาเป็น คนรักกัน
...ทำลายระยะห่างของความรู้สึกให้สั้นลงอย่างรู้สึกได้ ....
และเมื่อนั้นเรื่องราวดี ๆ สวยงามทางความรู้สึกจึงเกิดขึ้น +*+


+*+ แต่ในทางกลับกัน.. ระยะห่างของบางคน อาจห่างไกลออกไปจนสุดหูสุดตา
จากคนเคยรัก คนเคยคุ้น กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก
..กลายเป็นคนแปลกหน้าทางความรู้สึกไป แน่นอนว่า ระยะห่างของคนรู้จัก กับ
คนรัก ย่อมไม่เท่ากันเป็นแน่ .. แต่นั่นแหละ
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ.. +*+


+*+ เราเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของเวลา พอ ๆ
กับเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก...ไม่มีมาตราวัดใด ๆ
ที่จะใช้วัดระยะห่างของความรู้สึกได้
และระยะห่างในแต่ละสถานภาพทางความรู้สึกในแต่ละคนก็คงจะไม่เท่ากัน....เราระบุชัดไม่ได้ว่า
1 เท่ากับ 1 ในความรู้สึกของอีกคน 1 ในความรู้สึกของคนหนึ่ง อาจจะเป็น
100 ในความรู้สึกของอีกคนก็เป็นได้
และในเมื่อการคบหากันเป็นปฏิสัมพันธ์ของคนสองคน
เราจึงมองเห็นความไม่ลงตัว เห็นระยะห่างที่ไม่เท่ากันของคนสองคนได้เสมอ..
....+*+

+*+ กับคนบางคน เราอยากเป็นมากกว่าคนรู้จัก
เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรามันสั้นลง กับคนบางคน
เราอยากเป็นน้อยกว่าที่เป็นอยู่
เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรายาวไกลออกไป..แต่กลับบางคนเรากลับอยากจะรักษาระยะห่าง
ตรงกลาง ไว้ให้คงที่ ไม่ให้ห่างหาย จางหนี หรือ
เข้ามาใกล้จนเรารู้สึกอึดอัด.. ...+*+

+*+ เคยรู้สึกใช่ไหมว่า ในขณะที่เราเดินเข้าหา บางคนกลับกำลังเดินหนี
กับบางคนเรากำลังเดินหนี บางคนกลับเดินตาม...
กับบางคนเราก็ต้องการระยะห่างประมาณหนึ่ง ไม่ต้องใกล้มาก
แต่ไม่ต้องการห่างหายไปไหน ขณะที่บางคนวิ่งตาม
ล้มลุกคลุกคลานและเจ็บปวดกับระยะห่างของอีกคนที่ทิ้งไว้ตรงหน้า
และขณะเดียวกันกับที่อีกคนก็วิ่งหนี
โดยไม่คิดจะหันกลับมามองความเจ็บปวดของอีกคน อะไรก็เกิดขึ้นได้
กับความรู้สึกคน.. เหนื่อยแสนเหนื่อย ล้าแสนล้า แต่สุดท้าย! ก็ยังพยายาม
พยายามที่จะยื้อยุดฉุดดึงอยู่เช่นนั้น +*+


+*+ บางคนปล่อยความรู้สึกของอีกคนไว้ บนความห่าง ห่างจนลับตา ...
ไม่เคยหันกลับมามองหรือรับรู้ความเป็นไปของอีกคน โดยไม่เคยรับรู้ว่า
ระยะห่างที่เขาทิ้งไว้อีกคนมันสร้างความเจ็บปวดได้ประมาณไหน
แต่ก็มีบางคนที่เหนื่อยล้ากับระยะห่างที่พยายามรักษาไว้เพียงแค่นั้น
ไม่ต้องห่างไป แต่ เข้าใกล้กว่านี้ไม่ได้
ต้องการเพียงเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบ
การทำลายระยะห่างของคนสองคนอาจไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนักสำหรับอีกหลาย ๆ คน +*+


+*+ บางคนพยายามมาเกือบทั้งชีวิต..
ระยะห่างที่ว่าก็ยังคงห่างอยู่เช่นเดิม.. ขณะที่บางคนอยู่นิ่ง ๆ
ไม่วิ่งหนี ไม่วิ่งตาม ปล่อยทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของเวลา
ไม่เรียกร้องให้เกิดความคาดหวัง ไม่ปล่อยละเลยจนเหมือนชาเฉย...
ระยะห่างนั้นกลับขยับเข้ามาใกล้ราวปฏิหารย์.. ..... +*+


+*+ เราเอาใจช่วยสำหรับคนที่กำลังพยายามเดินเข้าหา
ให้อีกคนหันกลับมามองบ้าง ระยะห่างจะได้สั้นลง พยายามต่อไป
เพราะวันหนึ่งคุณอาจรู้สึกว่าความพยายามของคุณมิได้ไร้ค่า
ร้องขอสำหรับคนที่กำลังเดินหนี ให้หันกลับมามองความรู้สึกของอีกคนบ้าง
เพราะบางทีคุณอาจจะสูญเสียอะไรดี ๆ ไปเพราะระยะห่างที่คุณทิ้งไว้ให้อีกคน
เห็นใจกับการรักษาระยะห่างให้คงที่ สำหรับบางคน
เพราะบางทีมันก็ทรมานมากกว่า
การพยายามเดินเข้าใกล้หรือห่างหนี..เสียอีก..+*+

+*+ แล้วคุณ ๆ เล่า เคยนึกย้อนกลับมามอง ระยะห่าง
ของคุณกับผู้คนรอบตัวกันบ้างไหม..เคยรู้สึกไหมว่า บางที ความห่างไกล กับ
ระยะห่างของความรู้สึก กลับเป็นตัวแปรผกผันกัน
เคยรู้สึกได้ถึงระยะห่างทั้งที่ตัวอยู่ใกล้ ๆ
หรือรู้สึกใกล้กันแล้วทางความรู้สึก ทั้งที่ตัวอยู่แสนไกล กันบ้างไหม.???
+*+


Story by : Angel Satan _Aim
Date : 25 March 2004

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น