++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เก็บผลไม้เน่าทำปุ๋ยอินทรีย์แปลงวิกฤติเป็นโอกาสช่วงล้นตลาด

เก็บผลไม้เน่าทำปุ๋ยอินทรีย์แปลงวิกฤติเป็นโอกาสช่วงล้นตลาด

ไคงไม่สายเกินไป ถ้าจะนำเรื่องราวในวันนี้ มานำเสนอชาวสวนเกษตรกร
ผู้ปลูกผลไม้ หรือใครก็ตาม ที่มองเห็นโอกาส จากภาวะล้นตลาด
ของสินค้าเกษตร

ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ ในช่วงฤดูกาลผลไม้ขณะนี้ เห็นทิ้งกันเกลื่อนกลาด
ทั้งในท้องตลาด และตามสวนผลไม้ อย่ากระนั้นเลย เพื่อแปลงวิกฤติเป็นโอกาส

กรมพัฒนาที่ดิน ได้แนะให้นำมาทำ "ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ" กันดีกว่า

เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งปลูก และผลิตผลไม้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
มีพื้นที่เพาะปลูกไม้ผลประมาณ 26 ล้านไร่ ในแต่ละปีจะมีผลไม้นานาชนิด

ออกมาเป็นจำนวนมาก และนับวันจะมีปริมาณทวีคูณขึ้นทุกปี
เนื่องจากไม่มีการควบคุมพื้นที่ปลูก
ด้านการส่งออกก็ยังทำได้ไม่มากเท่าที่ควร

นี่เองจึงเป็นเหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้เกิดการเหลือทิ้งของผลไม้จำนวนมาก
โดยเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวิรัต เรืองเลิศบุญ
เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 8

ว กรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดินตระหนักมาตลอด
และได้พยายามคิดหาวิธีนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ต่อมาได้พบว่าเศษวัสดุผลไม้เหลือทิ้งเหล่า

นั้นสามารถนำมาผลิตเป็น "ปุ๋ยน้ำอินทรีย์" ได้ โดยใช้สารเร่ง พด.2
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของกรมพัฒนาที่ดินที่มีประสิทธิภาพ
ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำให้มี

คุณภาพดี

สำหรับสารเร่ง พด.2 เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติ
ในการย่อยสลายวัสดุเกษตร ที่มีลักษณะเปียกหรือมีความชื้นสูง
เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำ โดยดำเนิน

กิจกรรมการหมัก ในสภาพที่ไม่มีออกซิเจน ทำให้ กระบวนการหมักดำเนินไปได้
อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้นกว่าการหมักธรรมดาทั่วไป
ซึ่งการทำปุ๋ยอินทรีย์

น้ำผลไม้ ไม่มีอะไรยุ่งยาก ประกอบด้วยผลไม้ (ที่หล่นอยู่
ตามสวนหรือเน่าเสียในท้องตลาด) จำนวน 40 กิโลกรัม กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
น้ำ 10 ลิตร สาร

เร่ง พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม)

ขั้นตอนการทำ ให้นำสารเร่ง พด.2 มาผสมในน้ำ 10 ลิตร
คนให้เข้ากันนานประมาณ 5 นาที จากนั้นผสมวัสดุผลไม้ (ควรสับให้ละเอียด
หรือมีขนาดเล็กก่อน)

และกากน้ำตาล โดยอาจใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว
หรือเศษผลไม้แทนได้ ลงในถังหมักขนาดความจุ 50 ลิตร จากนั้นเทสารละลาย
พด.2

ผสมลงในถังหมัก คลุกเคล้าหรือคนส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง
ปิดฝาถังหมักให้สนิทและนำไปตั้งไว้ในที่ร่ม

ใช้ระยะเวลาในการหมักประมาณ 7-10 วัน
ก็สามารถนำออกมาใช้รดหรือฉีดพ่นพืชได้ นอกจากประโยชน์โดยตรงที่ได้
จากปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ช่วยเร่งการเจริญ

เติบโตของรากพืช เพิ่มการขยายตัวของใบและยืดตัวของลำต้น
ช่วยชักนำให้เกิดการงอกของเมล็ด เร่งการออกดอกและติดผลดีขึ้น
ขับไล่แมลงศัตรูพืชและ

ช่วยทำความสะอาด ตลอดจนลดกลิ่นเหม็นในคอกเลี้ยงสัตว์ ได้เป็นอย่างดีแล้ว
การเก็บผลไม้เน่าเสียออกจากสวน ยังเป็นการกำจัดแหล่งเพาะแมลงวันทอง

ในทางอ้อมได้อีกด้วย

เห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ควรทิ้งขว้าง
รีบสร้างโอกาสให้กับตัวเอง เพราะนอกจากได้ปุ๋ยไว้ใช้เองแล้ว
ยังขายเป็นรายได้เสริมในช่วงที่ผลไม้

ราคาตกต่ำอีกด้วย
เกษตรกรหรือผู้สนใจท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการสารเร่ง พด.2
ของกรมพัฒนาที่ดิน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ได้ที่โทร.0-2579-8515 โทรสาร 0-2941-2139.

ดวงแก้ว ผุงเพิ่มตระกูล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น