นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
แสดงทัศนะในงานฉลองครบรอบ 15 ปีของบริษัทเมโทร ซิสเต็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด
(มหาชน) ถึงวิสัยทัศน์ของไทยในปี 2001 ว่า ปัจจุบันหลายๆ ประเทศก้าว
สู่ยุคของสังคมแห่งการเรียนรู้
(โนว์เลจ เบส โซไซตี้) ทั้งไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ จีน สหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยเอง
รัฐบาลควรเป็นผู้นำ ผลักดันให้เกิดขึ้น
โดยสร้างโอกาสการศึกษาให้ประชาชนจากการปฏิรูปการศึกษาและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
(ไอที) เป็นเครื่องมือ กระจายโอกาสการเข้าถึงเครือข่ายให้ประชาชนได้
ขณะที่ ภาคเอกชนและชุมชนในประเทศเอง
ต้องมีส่วนร่วมสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้
ฝึกอบรมบุคลากรองค์กรอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งได้เริ่มทำแล้วในโรงงานบางแห่งที่ให้คนงานเรียน เป็นโรงเรียนในโรงงาน
ยกระดับพื้นฐานการศึกษาของคนงานได้
โดยประเทศไทยมีอัตราประชาชนที่ได้ศึกษาต่ออุดมศึกษาเพียง 20%
ของจำนวนประชากร ขณะที่กลุ่มประเทศโออีซีดี มีสัดส่วนเฉลี่ย 50%
และในบางประเทศอย่างฟินแลนด์ มีอัตราถึง 70%
นอกจากนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเอง เอกชนสามารถร่วมมือกันเรียนรู้ได้
โดยลงทุนวิจัยและพัฒนาร่วมกันเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่
ซึ่งอาศัยความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยและนักวิทยาศาสตร์ร่วมด้วย
โดยเฉพาะโอกาสที่น่าสนใจอย่างมากของประเทศ การนำภูมิปัญญาของไทยที่มีอยู่
แล้วใช้กระบวนการด้านวิทยาศาสตร์ (Science Methodology)
คิดค้นให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ที่สามารถนำมาผลิต
ในปริมาณมากและมีการยืดหยุ่น การผลิตที่สอดคล้อง
กับความต้องการของตลาดได้
ในแบบ Mass Customization
ทั้งนี้ประเทศที่ไทยน่าจะนำมาเป็นต้นแบบการดำเนินงาน น่าจะเป็นเกาหลีและจีน
เนื่องจากมีลักษณะทางประชากร และภูมิศาสตร์ ที่ใกล้เคียง
โดยมีพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
สำหรับเกาหลีเอง รัฐบาลผลักดันให้ทั้งประเทศเข้าสู่อิเล็กทรอนิกส์ เป็น
e-Korea มีจำนวนประชากรที่ต่อ เชื่อมอินเทอร์เน็ต สูงสุดในเอเชีย-แปซิฟิก
มีการกำหนดพื้นที่สนับสนุนเฉพาะ (โซน) ที่มีมาตรการและกลยุทธ์ที่เหมาะสม
กับแต่ละพื้นที่ทั้งในพื้นท ี่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
ซึ่งไทยเองก็น่าจะสามารถแบ่งพื้นที่เป้าหมายตามความเชี่ยวชาญ
ทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคความรู้
โดยภายหลังการกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว
ก็ให้พิจารณาองค์ประกอบที่นำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
ส่วนของจีนนั้น ได้มีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน
โทรคมนาคมมหาศาลเพื่ออำนวยความสะดวก การติดต่อการเดินทาง ของประชาชน
และส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม บริการ
กระจายความเจริญไปให้มากที่สุดและสร้างสังคมแบบดิจิทัล
(ดิจิทัล โซไซตี้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น