จาก หนึ่งสมอง สองมือ
รวมบทสนทนา "ชีวิตธุรกิจ" พ.ศ. 2530
โดย ประสาร มฤคพิทักษ์
มีผู้จัดการคนหนึ่งครับ เป็นคนตั้งในทำงานดีเหลือเกิน ขยันขันแข็ง
ทำงานชนิดหามรุ่งหามค่ำ งานไม่เสร็จก็ไม่ยอมหยุดพัก
เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปที่รู้จัก
ปัญหาก็คือ ผู้จัดการคนนี้ได้ชักชวนคนอื่นให้ขยันขันแข็งตามตัวเองไปด้วย
โดยที่ขาดความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น
ลูกน้องออกไปทำงานข้างนอก พอกลับเข้ามาถึงสำนักงานตอนสองทุ่มแล้ว
ก็ยังเรียกประชุมต่อ ไปเลิกประชุมเอาเลยเที่ยงคืนไปแล้วหลายหน
เวลาประชุมก็ดำเนินการประชุมไม่เป็น ใช้เวลายืดเยื้อยาวนาน
ผู้เข้าประชุมเพลียมาจากงานข้างนอกแล้ว จึงไม่มีแก่ใจจะนั่งประชุมด้วย
กลายเป็นว่า ผู้จัดการพูดอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่
หลายครั้ง อยู่ๆก็สั่งให้ลูกน้องออกต่างจังหวัดโดยกระทันหัน
ไม่มีการบอกกล่าวกันล่วงหน้ากันไว้ก่อน
โดยถือว่าตนเองมีน้ำอดน้ำทนมากกว่า มีความสมบุกสมบันกว่า
เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานว่า คนอื่นจะต้องสามารถทำได้อย่างที่ตนเองทำ
จึงสั่งการไปทั้งที่ฝืนความรู้สึกของลูกน้อง
บรรยากาศการทำงานจึงน่าเบื่อครับ ลูกน้องพอรู้ว่าต้องประชุม
ก็พากันเบื่อหน่ายแล้ว
ลูกน้องที่ออกต่างจังหวัดแทบไม่มีเวลาเตรียมเสื้อผ้า
ที่จริง ปัญหาก็ง่ายมาก จะประชุมก็กำหนดการประชุมล่วงหน้า
แจ้งวาระการประชุมและกำหนดเวลาประชุมให้เสร็จภายในเวลาที่แน่นอน
จะให้ลูกน้องออกต่างจังหวัด ก็วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า ก็เท่านั้นเอง
ด้วยวิธีนี้ ผู้จัดการเองก็ไม่เหนื่อยจนเกินไป ลูกน้องก็ไม่หนักมากไป
ดีด้วยกันทุกฝ่าย
วิธีเดิมของผู้จัดการ เขาเรียกว่าขยันแต่โง่ครับ
มัวแต่จะบุกไปข้างหน้าโดยไม่แลดูข้างหลังว่า
อารมณ์ความรู้สึกของลูกน้องตัวเองเป็นอย่างไร
ผู้จัดการแบบนี้ ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่มากมายครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น