* สุขภาพ
24 มิถุนายน 2552 - 00:00
วิธีการออกกำลังกายแต่ละอย่างช่วยบำบัดอาการเจ็บไข้ได้ป่วยได้แตกต่างกันไป
ตั้งแต่ปวดท้อง เครียด ไปจนถึงโรคเหงือก
วงการแพทย์ได้ค้นพบหลักฐานยืนยันว่า
โรคภัยไข้เจ็บหลายชนิดสามารถเยียวยาได้ด้วยการออกกำลังกายให้เหมาะสม
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
โรคลำไส้แปรปรวน
วิธีแก้ : โยคะ
ความถี่ : สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง
เหตุผล : โรคนี้ยังไม่ทราบเหตุผลแน่ชัด วินิจฉัยและรักษาได้ยาก
อาการอาจมีเช่น ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย เสียดท้อง
แต่นักวิจัยพบว่าการบำบัดที่เน้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจจะให้ผลดี
ผู้เชี่ยวชาญด้านลมในลำไส้ของมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย
ในเมืองแวนคูเวอร์ พบว่า โยคะสามารถบำบัดอาการนี้ได้
ผู้ที่ได้เรียนโยคะโดยใช้คู่มือสอนทางดีวีดี และได้เล่นโยคะสัปดาห์ละ
4 ชั่วโมง มีอาการเกี่ยวกับท้องไส้ลดน้อยลงอย่างมาก
และมีความวิตกกังวลน้อยลง
เมื่อเทียบกับกลุ่มเปรียบเทียบซึ่งออกกำลังกายแบบธรรมดา
งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งของมหาวิ
โปรแกรมของคุณอาจไม่สนับสนุนการแสดงรูปภาพนี้ ทยาลัยเบอร์มิงแฮม พบว่า
การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย รวมทั้งโยคะ สัปดาห์ละ 5 วัน
ช่วยลดอาการนี้ได้
เหตุที่ช่วยได้นั้น เพราะนอกจากโยคะช่วยบำบัดร่างกายแล้วยังช่วยบำบัดจิตใจด้วย
วิธีแก้อื่น ว่ายน้ำหรือเล่นแอโรบิกในน้ำ สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง
โรคเหงือก
วิธีแก้ : แอโรบิก
ความถี่ : เต้นแอโรบิกครั้งละ 45 นาที-1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
เหตุผล : แต่ก่อนวิธีป้องกันโรคเหงือกก็คือ
แปรฟันและใช้ไหมขัดฟัน แต่งานวิจัยซึ่งศึกษาประชาชน 12,000 คน
ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Periodontology ระบุว่า
คนที่เต้นแอโรบิกมีแนวโน้มลดลง 40% ที่จะเป็นโรคติดเชื้อที่เหงือก
ซึ่งจะทำให้ฟันหลุด และเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวาน
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเสิร์ฟ ในสหรัฐ พบว่า
การออกกำลังกายปานกลาง สัปดาห์ละ 5 ครั้ง หรือออกกำลังกายอย่างหนัก
สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
บวกกับการกินอาหารที่มีประโยชน์และรักษาอนามัยช่องปาก
ช่วยลดโอกาสเป็นโรคเหงือกได้
วิธีแก้อื่น ปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นวิธีออกกำลังกายเทียบได้กับการเต้นแอโรบิก
ความดันโลหิตสูง
วิธีแก้ : เดินออกกำลัง
ความถี่ : 30-60 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
เหตุผล : การเดินไต่ไปตามภูเขาหรือก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ ช่วยได้มาก
นักสรีรศาสตร์ของสถาบันวิจัยโอเรกอน พบว่า
การเดินไต่ไปตามก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ ช่วยลดความดันโลหิต
และช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น
พื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอจะกดจุดที่ฝ่าเท้า ช่วยให้เลือดลมเดินสะดวกขึ้น
การกดจุดตามร่างกายช่วยให้ช่องทางที่อุดตันต่างๆ โล่งขึ้น
การออกกำลังกายด้วยวิธีนี้จะเผาผลาญแคลอรีมากกว่าการเดิ
โปรแกรมของคุณอาจไม่สนับสนุนการแสดงรูปภาพนี้ นบนพื้นที่ราบเรียบ
ในงานวิจัยของโอเรกอน ซึ่งตีพิมพ์ใน Journal of the American
Geriatrics Society ดร.ฟูจง ลี
ได้ขอให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งเดินบนแผ่นตะปุ่มตะป่ำเป็นเวลา 60 นาที
และอีกกลุ่มขอให้เดินสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 16 สัปดาห์
เมื่อสิ้นระยะเวลาศึกษา กลุ่มที่เดินบนแผ่นก้อนกรวดจำลอง
ได้รับประโยชน์อย่างมากเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ รวมทั้งความดันโลหิต
งานวิจัยชิ้นหนึ่งซึ่งเสนอต่อสมาคมโรคหัวใจอเมริกัน ระบุว่า
ไทเก็กช่วยลดความดันโลหิตในผู้สูงอายุได้มากเกือบเท่ากับการออกกำลังกาย
ปานกลาง เช่น การวิ่ง
โรคกระดูกพรุน
วิธีแก้ : วิ่ง
ความถี่ : 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน
เหตุผล : กิจกรรมที่ทำให้เกิดการกระทบหนักๆ เช่น กระโดดบนพื้น
ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
และการวิ่งจะให้ผลดีที่สุด
ในงานวิจัยเมื่อต้นปีนี้ ศาสตราจารย์แพม ฮินตัน
แห่งภาควิชาโภชนศาสตร์และสรีรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิสซูรี
ได้เปรียบเทียบผลระยะยาวของการวิ่ง การปั่นจักรยาน และการยกน้ำหนัก
ที่มีต่อมวลกระดูก พบว่า
คนที่วิ่งเป็นประจำมีกระดูกสันหลังแข็งแรงที่สุด
เธอแนะนำว่า คนที่ออกกำลังกายแบบไม่มีการรับน้ำหนัก เช่น
ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ พายเรือ ควรเพิ่มการวิ่งเข้าไปด้วย
วิธีแก้อื่น : เทนนิส บาสเกตบอล และกระโดด
ซึ่งล้วนเป็นวิธีที่ร่างกายต้องรับน้ำหนัก
โรคซึมเศร้า
วิธีแก้ : เดิน
ความถี่ : วันละ 30 นาที
เหตุผล : การเดินในสวนสาธารณะหรือป่าเขาลำเนาไพร
ช่วยให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น นักวิจัยหลายรายพบว่า
การเดินเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะอาการซึมเศร้าระดับต่ำและปานกลาง
โปรแกรมของคุณอาจไม่สนับสนุนการแสดงรูปภาพนี้
องค์การการกุศล Mind ได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัยเอสเซ็ก
ซึ่งพบว่า การเดินในห้อมล้อมของธรรมชาติ ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า
ขณะที่การเดินในห้างสรรพสินค้าหรือในเมืองจะเพิ่มปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์
งานวิจัยในสหรัฐระบุว่า การเดินจ้ำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ
30 นาที ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีกว่ากินยาต้านอาการนี้เสียอีก
วิธีแก้อื่น : เล่นว่าว ทำสวน
เบาหวาน
วิธีแก้ : ยกน้ำหนัก
ความถี่ : สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
เหตุผล : ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
มักได้รับคำแนะนำให้ออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น วิ่ง
ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เพื่อลดไขมันในร่างกาย
และทำให้ควบคุมน้ำตาลกลูโคสได้ดีขึ้น แต่รายงานวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้
พบว่า การยกน้ำหนักก็เป็นประโยชน์เช่นกัน
ศาสตราจารย์โรบิน มาร์คัส แห่งสมาคมกายภาพบำบัดอเมริกัน
ได้ขอให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เข้าร่วมในโปรแกรมออกกำลังกายเป็นเวลา
16 สัปดาห์
ครึ่งหนึ่งของคนไข้เหล่านี้ออกกำลังกายด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายเพียงอย่าง
เดียววันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน
ขณะที่อีกครึ่งเพิ่มการยกน้ำหนักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เข้าไปด้วย
ผ่านไปสามเดือน ทั้งสองกลุ่มมีไขมันในร่างกายน้อยลง
และควบคุมกลูโคสได้ดีขึ้น แต่กลุ่มที่ยกน้ำหนักยังมีดัชนีมวลกายลดลง
และมีกล้ามเนื้อขาแข็งแรงขึ้นด้วย
วิธีแก้อื่น : การยกน้ำหนักไปพร้อมๆ กับการเคลื่อนไหวร่างกาย
ที่เรียกว่า Body Pump เป็นการผสมวิธีออกกำลังทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน
ควรทดลองทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
โปรแกรมของคุณอาจไม่สนับสนุนการแสดงรูปภาพนี้
ปวดหัว
วิธีแก้ : ปั่นจักรยาน
ความถี่ : 30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
เหตุผล : สำหรับคนที่ปวดหัวเป็นประจำบางราย
การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการนี้
ผู้เชี่ยวชาญยังไม่รู้ว่าทำไมเป็นเช่นนั้น นักวิจัยหลายรายแนะนำว่า
การปั่นจักรยานหรือตีกรรเชียงในร่มอาจช่วยทุเลาได้
เพราะเป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอนโดรฟีน ซึ่งให้ความรู้สึกดี
และเป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติ
งานวิจัยใน Journal of Head and Face Pain ระบุว่า
การปั่นจักรยานในร่มหรือกลางแจ้ง ช่วยลดความถี่ของอาการปวดหัวลงได้ 90%
ดร.เอมมา วาร์กีย์
แห่งศูนย์บำบัดอาการปวดหัวซีฟาเลในเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน
ได้ศึกษาผู้ใหญ่ 68,000 คน พบว่า
คนที่ไม่ออกกำลังกายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 14% ที่จะมีอาการปวดหัว
การปั่นจักรยานมีประโยชน์ เพราะช่วยกระจายออกซิเจน
การปั่นจักรยานไม่มีการกระทบกระแทกเหมือนการวิ่ง หรือเต้นแอโรบิก
ซึ่งบางครั้งทำให้ปวดหัว
เป็นไปได้ว่า อาการปวดหัวขณะออกกำลังกายเกิดจากการขาดน้ำ
หรือมีน้ำตาลในเลือดต่ำ
ซึ่งอาจเป็นเพราะกินคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไปก่อนหน้าออกกำลังกาย
วิธีแก้อื่น : เล่นโยคะเป็นประจำ งานวิจัยของศูนย์การแพทย์เดวิส
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ชี้ว่า อาการปวดหัว 75%
เกิดจากกล้ามเนื้อที่ต้นคอตึงตัว เนื่องจากท่าทางในชีวิตประจำวัน
โยคะช่วยลดปัญหานี้ได้ ซึ่งจะช่วยลดความถี่ของอาการปวดหัว
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น