++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ท่องเที่ยว(อย่าง)ปลอดภัย ในสถานการณ์หวัด 2009

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กรกฎาคม 2552 15:50 น.
ควรสวมหน้ากากป้องกันเชื้อหวัดในพื้นที่สุ่มเสี่ยง
ในปีนี้การท่องเที่ยวของไทยถูกศึกหนัก รุมเร้าในหลายด้าน
ทั้งเรื่องปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก
ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ
และล่าสุดกับปัญหาโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่ทำเอาหลายๆคนกลัวไม่กล้าจะออกไปเที่ยวไหน

แต่อันที่จริงแล้วถ้ารู้จักป้องกันตัว ดูแลรักษาสุขภาพพลานามัย
ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
เราก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวกันได้อย่างปกติ ซึ่งกูรูทางการท่องเที่ยว
3 คน ได้ให้ทัศนะ คำแนะนำ
และข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวในสถานการณ์ไข้หวัด 2009
ไว้ดังนี้

วันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ฝ่ายการตลาดในประเทศ กล่าวถึงเรื่องของไข้หวัดใหญ่ 2009
ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกำลังวิตกกันอยู่ในขณะนี้ว่า
ตนไม่อยากให้นักท่องเที่ยวตกใจ เพราะถ้ามีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง
ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะอยู่ได้อย่างปลอดภัย

ส่วนท่านไหนที่คิดว่าไม่สบายก็หลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวในสถานที่
แออัด การใส่หน้ากากอนามัยที่ทางรัฐบาลรณรงค์ป้องกันให้ใส่อยู่ในขณะนี้ก็เป็นวิธี
หนึ่งที่จะช่วยให้ท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ยิ่งช่วงนี้อาจจะอยู่ในช่วงหน้าฝนด้วย การติดหวัดจึงเป็นไปได้ง่าย
แต่ไม่อยากให้คนไทยนำไปเป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ตัวเลือกน่าสนใจในสถานการณ์หวัด 2009
สำหรับเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 สำคัญที่การป้องกันและระวัง
แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก
ในแหล่งชุมชนอยากให้ใส่หน้ากากและฟังคำเตือนจากสาธารณสุขอยู่ต่อเนื่อง
ในเรื่องการจับต้องสิ่งของต่างๆ ก็ต้องล้างมือบ่อยๆ กินอาหารร้อนๆ

ขณะนี้มาตรการรองรับ เรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ทาง ททท. มีก็คือ
การร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่ข้อมูลป้องกันแก่นักท่องเที่ยว
ถ้าใครกลัวที่จะเที่ยวเพราะไข้หวัด 2009
ก็อยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติและสงบอย่างอุทยานฯหรือวัด
ทุกคนอยู่กับธรรมชาติยังไงก็ปลอดภัย หลีกจากการเที่ยวผับ บาร์
หาความสดชื่นตามธรรมชาติน่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ห่างไกลจากไข้
หวัดใหญ่ 2009 ได้

ด้าน วินิจ รังผึ้ง บรรณาธิการอนุสาร อ.ส.ท.
กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009
ที่กำลังระบาดอยู่ในบ้านเราตอนนี้ที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวว่า
โรคไข้หวัด 2009 ค่อนข้างมีผลกระทบมาก
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศตอนนี้หายไปเยอะมาก
หลายๆประเทศค่อนข้างจะตื่นกลัวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 พอสมควร
แสดงให้เห็นว่าโรคไข้หวัด 2009 นั้นแพร่กระจายมาก คนจึงตื่นตระหนกกัน
นักท่องเที่ยวเองหากตอนนี้ถ้าเลือกได้ต่างก็จะงดการเดินทางท่องเที่ยวกัน

"ปกติการใช้ชีวิตประจำวันก็ค่อนข้างมีอัตราเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้
อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือในรถประจำทาง รถสาธารณะ
ในห้าง ในพื้นที่ต่างๆ ฉะนั้นความเสี่ยงมันอยู่ใกล้ตัวเรามากทุกที
ถ้าหากควบคุมไม่ได้ถึงขั้นปิดหรือสั่งให้หยุดกิจกรรมต่างๆ
หรือสถานบันเทิงต่างๆ เพื่อเป็นการหยุดการแพร่กระจายของเชื้อหวัด
ผมคิดว่าถ้ามองอีกแง่หนึ่งเราก็สามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังสถานที่
อื่นๆ ได้อีกมากมาย ตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา
ชายทะเล หรือที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีแล้ว
ผมคิดว่าอัตราเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค
และการแพร่กระจายของเชื้อโรคน้อยกว่าการใช้ชีวิตประจำวัน" วินิจ กล่าว

สถานที่แออัด อาจต้องหลีกเลี่ยงในช่วงนี้
วินิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมองเรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
ที่มีผลต่อการท่องเที่ยวจริงๆ น่าจะมองในเชิงกลับกันว่า
ตัวกิจกรรมท่องเที่ยวไม่ได้ส่งผลกระทบ
นอกจากการท่องเที่ยวในรูปแบบกิจกรรมที่เป็นเทศกาลหรือเป็นงานที่คนต้องไปรวม
ตัวกันดูการแสดงเป็นจำนวนมาก หรือต้องมาอยู่ใกล้ชิดกัน
ตรงจุดนี้ดูจะมีความเสี่ยงสูงของการติดเชื้อมากกว่า
ส่วนการท่องเที่ยวทั่วไปมีความเสี่ยงน้อยมาก

"การไปเที่ยวในผับในเทค หรือตามห้างสรรพสินค้าของเยาวชน
ผมว่าก็ไปเที่ยวเฉพาะที่จำเป็น
แล้วหันไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติจะดีกว่า
พื้นที่ธรรมชาติของเรามีมากมายกระจายกันอยู่
ไปเที่ยวแล้วเสี่ยงต่อการติดโรคน้อย
แล้วในส่วนของการเดินทางหากนักท่องเที่ยวต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถปรับอากาศ หรือรถทัวร์ต่างๆ
เราก็ป้องกันตัวเองได้ อย่างเช่น ใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูก ปิดปากไป
แล้วก็การสัมผัสมือจับอะไรต่างๆ
เราก็พยายามใช้มือมาให้สัมผัสกับตัวเราให้น้อยที่สุด อย่างการเอาเข้าปาก
หรือไปแกะ แคะ ปาก จมูก ไปขยี้ตาก็พยายามทำให้น้อยที่สุด
แล้วก็ล้างมือให้บ่อยที่สุดเท่าที่มีโอกาส
หรือจะใช้เจลแอลกอฮอลล์ติดตัวไป ก็จะสามารถช่วยป้องกันเชื้อได้" วินิจ
กล่าว

ทะเลที่โล่งแจ้ง เที่ยวได้ไม่ต้องวิตก
ส่วน วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์
นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่า โรคไข้หวัดใหญ่
2009 ก็มีส่วนกระทบกับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว
เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากจะไปไหนมาไหน
แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่งกลับคิดว่าเป็นส่วนที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใน
ประเทศ เช่น คนที่จะไปเดินห้าง ที่ชุมนุม ที่ช้อปปิ้ง
หรือสถานที่แออัดยัดเยียด
บางส่วนอาจจะหลีกหนีไปเป็นการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ๆ
ก็อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งก็เป็นผลดีส่วนหนึ่ง

"ผมคิดว่าในทุกสิ่งทุกอย่างบางครั้งวิกฤตมันจะเป็นโอกาส
แต่ในเรื่องของการไปเที่ยวระยะไกลอาจจะน้อยหน่อย
อันนี้มันจะไปเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ
แต่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในระยะใกล้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นไปได้
เพราะเขาจะไปหาอากาศบริสุทธิ์ ไปเป็นครอบครัว
เพราะข่าวสารที่ออกมาทำให้คนส่วนหนึ่งจะไม่ไปเข้าโรงหนัง ไม่ไปที่คนเยอะๆ
เขาก็จะไปหาที่โล่ง

ดังนั้นในส่วนนี้มันเป็นไปได้ที่จะใช้ตัวนี้ช่วยกระตุ้นการท่อง
เที่ยวในระยะใกล้ได้ ส่วนใครที่มีเงินหน่อยจะไประยะไกลก็ได้
แต่ไปในที่ที่ไม่แออัดยัดเยียด เช่น
วันเสาร์-อาทิตย์เราควรจะหลีกเลี่ยงพวกตลาดน้ำทั้งหลายที่คนไปกันเยอะๆ
หรือถ้าไม่เลี่ยงก็ต้องเอาผ้าไปปิดปากปิดจมูก
แต่ขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้คนตกใจมากก็น่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในที่โล่งๆ
เช่น ตามอุทยานแห่งชาติ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
ถือเป็นการออกกำลังกายด้วย เช่นไปเดินป่า ไปว่ายน้ำ
ผมคิดว่าน่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงนี้ด้วยซ้ำไป
ว่าน่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส"

ยืดอกพกหน้ากากอนามัยในสถานการณ์หวัด 2009
ส่วนวิธีการท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่ 2009
วิโรจน์กล่าวว่า สุขภาพคนเรามันอยู่ที่เราต้องดูแลรักษา
เรื่องหวัดเราก็รู้แล้วว่าสาเหตุหนึ่งเป็นเรื่องของภูมิต้านทานซึ่งเป็น
เรื่องสำคัญ ถ้าเรารู้ว่าเรื่องหวัดเกี่ยวข้องกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ต้องดื่มน้ำมากๆ ทานผลไม้ ตามที่หมอเขาแนะนำมาอันนี้ก็ช่วยได้
เราควรส่งเสริมให้คนหันมากินผลไม้ไทยที่มันเหลือเยอะๆ ตรงนี้ด้วย
เราต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
เราก็สนับสนุนให้เขาบำรุงสุขภาพด้วยเรื่องกินผลไม้และผักต่างๆ

"ผมคิดว่าคนเราอย่าอยู่บ้าน
เพราะอยู่บ้านถึงไม่ติดหวัดแต่ก็อาจเป็นโรคภัยไข้เจ็บอย่างอื่น
เผลอๆอาจจะติดหวัดง่ายกว่าด้วยซ้ำไป ไม่แน่อาจจะเป็นโรคอื่นด้วย
ควรจะออกนอกบ้านบ้างไม่ใช่ไม่ออกเลย
อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกกำลังกายผมว่ามันไม่ดี
ควรมาหาอาหารสุขภาพทานมาส่งเสริมเรื่องอาหารไทย ผัก ผลไม้กันเยอะๆ"
วิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000081907

1 ความคิดเห็น:

  1. หน้ากลัวนะครับ ไข้หวัด ระวังๆกันด้วยนะคร้บ จะท่องเที่ยวที่ไหนก็ป้องกันตัวนะครับ

    ตอบลบ