++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รายงานข่าว สถานการณ์หวัดใหญ่ 2009 (11 ก.ค.2552 )

รมว.สธ.วางมาตรการรักษาไข้หวัด2009

from MOPH-Hot news by เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น

นาย วิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวถึงการพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
ว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข
ได้วางแนวทางการดูรักษาไว้ 2 ส่วน โดยในกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง
ซึ่งจะพบเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่รายที่ไข้ไม่สูง ไม่มีอาการซึม
และรับประทานอาหารได้ สามารถรักษาตามอาการด้วยตนเองที่บ้านได้
ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล โดยในการใช้ยาลดไข้ ให้ใช้ยาพาราเซตามอล
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ ควรหยุดเรียน หยุดงาน
จนกว่าจะหายเป็นปกติ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีคนใกล้ชิด
หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น หากอาการไม่ดีขึ้น ไข้ยังสูงติดต่อกัน 2-3
วัน มีอาการไอมาก หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก มีอาการซึมลง
ควรรีบพบแพทย์ ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศกว่า 800
แห่งทั้งส่วนกลางและภูมิภาค
ได้จัดช่องทางบริการพิเศษให้ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นการเฉพาะ
เพื่อผู้ป่วยได้รับความสะดวก ได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว
ไม่แพร่เชื้อสู่คนอื่น
หากมีอาการรุนแรงหรืออยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงอาการรุนแรง
แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล และดูแลอย่างดีที่สุด
เพื่อป้องกันการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ
ได้จัดเตรียมห้องแยกไว้ดูแลเป็นการเฉพาะแล้ว
และจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางไว้เป็นที่ปรึกษาแพทย์ทั่วประเทศทั้ง
รัฐและเอกชนตลอด 24 ชั่วโมง

===========================

สธ.ขยายพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ไปในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

กระทรวง สาธารณสุข
ขยายพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมเร่งให้ความรู้ตามสถานศึกษาต่าง ๆ
หลังพบอัตราผู้ป่วยร้อยละ 70 เป็นเด็กนักเรียน นายวิทยา แก้วภารดัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ช่วงนี้เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ปะปนกับไข้หวัดใหญ่ประจำปี เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน
คาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้การแพร่ระบาดของโรคจะรุนแรงขึ้น
เนื่องจากเป็นการแพร่ระบาดจากคนสู่คน
ซึ่งไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของคนให้อยู่ในกรอบที่จำกัดได้
โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว
เชื่อว่าจะมีการแพร่เชื้อจากคนในเมืองใหญ่ไปสู่ชนบท
แม้ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขจะอบรมให้ความรู้กับ อสม. แล้วก็ตาม
แต่กระทรวงสาธารณะสุขยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด
ให้เตรียมพร้อมระบบการรักษาพยาบาลของทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ
รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน และเร่งให้ความรู้ตามสถานศึกษาต่างๆ
เนื่องจากพบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนถึงร้อยละ 70
รองลงมาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง เช่น เท็ค ผับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า
ขอความร่วมมือผู้ป่วยหากมีอาการเป็นไข้ 1-2 วัน ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
และขอให้โรงพยาบาลทุกแห่งเพิ่มช่องทางพิเศษในการแยกตรวจรักษาผู้ป่วยที่เข้า
ข่ายอย่างเร่งด่วน ไม่ให้แพร่เชื้อไปกับบุคคลคนอื่น
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษยังเป็นกรุงเทพมหานคร ชลบุรี
และเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ

=================================
สธ.เผยป่วยหวัดใหญ่แห่ตรวจที่รพ.ใหญ่เฉลี่ย 100 คนต่อวัน
ส่วนใหญ่นร.คาดติดจากร้านเกม

from MOPH-Hot news by ASTV ผู้จัดการออนไลน์

สธ. เผยช่วงวันหยุด มีผู้ป่วยไข้หวัดเข้าตรวจรักษาที่ร.พ. ใหญ่ เฉลี่ย
100 คนต่อวัน แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่
ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนคาดติดหวัดจากร้านเกม ประสานกระทรวงวัฒนธรรม
ขอความร่วมมือร้านเกมทำความสะอาดอุปกรณ์
และสั่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเข้าไปให้ความรู้เจ้าของร้าน
เพื่อตัดวงจรการแพร่โรคพร้อมย้ำ 6 กลุ่มเสี่ยงหากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่
ต้องรีบพบแพทย์ อย่าซื้อยากินเอง วันที่ 6 กรกฎาคม นายมานิต นพอมรบดี
รัฐมนตรีช่วยว่าการระทรวงสาธารณสุข
เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในภาคกลาง 5 จังหวัด
ได้แก่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี โรงพยาบาลอ่างทอง
โรงพยาบาลชัยนาท โรงพยาบาลสิงห์บุรี โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อติดตามความพร้อมในการจัดบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต
และจำกัดการแพร่กระจายเชื้อให้อยู่ในวงแคบที่สุด นายมานิตกล่าวว่า
ต้องยอมรับว่าขณะนี้การหยุดยั้งการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
เป็นไปได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถจำกัดการเดินทางของประชาชนได้
จังหวัดต่างๆเริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้นและแนวโน้มเข้ารับการตรวจรักษาที่โรง
พยาบาลมากขึ้นไปด้วย สธ.ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ
จัดช่องทางพิเศษแบบวันสต็อป เซอร์วิส ที่แผนกผู้ป่วยนอก ให้บริการทำบัตร
ตรวจรักษา จ่ายยาผู้ป่วยที่มีอาการของไข้หวัดทุกชนิด คือมีไข้สูง ไอ จาม
ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูก เจ็บคอ เป็นการเฉพาะ ไม่ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป
และแต่ละแห่งได้จัดหน้ากากอนามัย คำแนะนำ และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
ให้บริการผู้ป่วยและญาติ
เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในแคบที่สุดและลดอัตราตายผู้ป่วยให้ได้มากที่
สุด นายมานิตกล่าวต่อว่า จากการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลขนาดใหญ่
ในช่วงวันหยุดนี้มีผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด
เข้ารับการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกในวันหยุดเฉลี่ยแห่งละประมาณ 100
คนต่อวัน ทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเต็มที่
ในวันนี้มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นอนรักษาในโรพยาบาลทั่ว
ประเทศทั้งรัฐเอกชนเพิ่มมากขึ้น ได้เน้นย้ำทีมแพทย์
หากมีผู้ป่วยอาการหนักและ มีภาวะแทรกซ้อน
โทรขอรับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขส่วนกลาง ตลอด
24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยที่สุด
"เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
และผู้ป่วยไข้หวัดที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาล ส่วนใหญ่มักเป็นนักเรียน
วัยรุ่น ให้ข้อมูลว่ามีอาการป่วยภายหลังจากเข้าไปเล่นเกมที่ร้านเกม
ซึ่งในช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
เด็กก็มักจะใช้เวลาไปเล่นที่ร้านเกมเหล่านี้ด้วย
จึงเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อโรคอย่างดี ได้ประสานกระทรวงวัฒนธรรม
ขอความร่วมมือร้านเกมปิดทำการเพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ
ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้ด้วย แต่หากหยุดไม่ได้
ในวันนี้ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความรู้เจ้าของร้านเกม ในการดูแลความสะอาด
ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ ด้วย เพื่อป้องกันโรคด้วย"นายมานิตกล่าว
ด้านนพ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอย้ำประชาชนว่า
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นโรคที่มีอาการไม่รุนแรง
สามารถหายเองได้และป้องกันได้ ผู้ที่ป่วยยืนยันทั่วประเทศประมาณร้อยละ 90
มีอาการไม่รุนแรง เช่นมีไข้ แต่ไข้ไม่สูง สามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้
มีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
ที่ต้องรีบพบแพทย์ตรวจรักษาหลังมีอาการป่วยไข้หวัดใหญ่
แม้ว่าอาการจะรุนแรงหรือไม่ก็ตาม ไม่ควรซื้อยากินเอง ซึ่งมี 6 กลุ่ม
ได้แก่ ผู้ป่วยโรคที่มีโรคเรื้อรังประจำตัวต้องกินยาควบคุมอาการต่อเนื่อง
เช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต เป็นต้น
ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ เช่นโรคเลือด ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น
ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
และผู้ที่มีภาวะอ้วน
เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีโรคแทรกซ้อนรุนแรงได้สูงกว่าคนทั่วไป
สามารถเข้าไปใช้บริการที่โรงพยาบาลทั่วประเทศ
สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง หากมีอาการของไข้หวัดใหญ่
ให้นอนพักผ่อนเต็มที่บ้าน ดื่มน้ำ มากๆ คาดหน้ากากอนามัย
ป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ในครอบครัว คนใกล้ชิด อาการจะค่อยๆทุเลา ดีขึ้นใน
3-5 วัน หากไม่ดีขึ้น และมีอาการรุนแรงขึ้น คือไข้สูงขึ้น ไอถี่ขึ้น
เจ็บหน้าอก หายใจเร็วกว่าเดิม ควรไปพบแพทย์
ทั้งนี้หากสงสัยในเรื่องการปฏิบิตตัว
สามารถโทรขอรับคำปรึกษาทางสายด่วนไข้หวัดใหญ่ได้ที่โทรศัพท์ 02 5901333 ,
02 5901994 และ 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้มีประชาชนโทรศัพท์สอบถามวันละ
300-500 สาย
=================================

สธ. ยืนยัน ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวม 9 ราย

from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์

กระทรวง สาธารณสุข ยืนยัน ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เสียชีวิตเพิ่มในวันนี้อีก 2 ราย สาเหตุเป็นเพราะมีโรคประจำตัว
และเชื่อว่า หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
จะมีผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า นายมานิต
นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า วันนี้ (7
ก.ค.52) มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
ที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 ทำให้ไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวม 9
รายแล้ว ซึ่งในรายที่ 8 เป็นเด็กหญิงวัย 8 ปีเสียชีวิตมาตั้งแต่วันที่ 2
กรกฎาคม โดยมีโรคประจำตัวคือ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติอยู่แล้ว ส่วนรายที่ 9
เป็นชายวัย 58 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม มีโรคประจำตัวคือ
ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หลังช่วงวันหยุดยาว
ในช่วงวันพฤหัสและศุกร์นี้
จะมีผู้ป่วยเป็นไข้หวัดเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมากขึ้นอีก 2-3 เท่า
จึงขอให้แพทย์ ทำงานกันอย่างเต็มที่ และอย่าเพิ่งท้อ นอกจากนี้
ยังได้สั่งให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เปิดโทรศัพท์ตลอด 24
ชั่วโมง เพื่อประสานข้อมูลใกล้ชิดให้สามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรม
ให้เฝ้าระวังการติดหวัดในกลุ่มผู้ใช้แรงงานอย่างใกล้ชิดด้วย
สำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่อาการค่อนข้างหนักขณะนี้มีอยู่ 3 ราย
ซึ่งแพทย์มีการดูแลผู้ป่วยเหล่านั้นอย่างเต็มกำลัง
ซึ่งความคืบหน้าของอาการจะมีการแจ้งให้ทราบเป็นระยะ
=================================

สธ.แนะการล้างมือเป็นวิธ้ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009
ที่ได้ผลกว่าร้อยละ 90
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวง สาธารณสุข
แนะการล้างมือเป็นวิธ้ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่ได้ผลกว่าร้อยละ 90 ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมวันนี้ พุ่งขึ้นเป็น 2,076
รายแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงที่ที่ 7 ราย นายวิทยา แก้วภราดัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ขณะนี้การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
จนล่าสุดวันนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก
231 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยสะสมพุ่งทะลุ 2,076 รายแล้วก็ตาม
แต่ในจำนวนนี้ก็มีผู้ป่วยติดเชื้อที่หายดีแล้วถึง 2,036 ราย
เหลือนอนรอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเพียง 33 ราย
ขณะที่ผู้เสียชีวิตวันนี้ยังไม่เพิ่ม คือ คงที่อยู่ที่ 7 ราย
ซึ่งการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อนั้นเป็นเรื่องจากที่จะควบคุม
เพราะไม่อาจห้ามการเดินทางของประชาชนได้ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้
สิ่งที่ดีที่สุดที่กระทรวงฯ พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ คือ
การให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันตัวที่ถูกต้อง
เพราะไม่ใช่ใส่หน้ากากอนามัย แต่ต้องล้างมือบ่อยๆ
ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้กว่าร้อยละ 90 เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิด A
H1N1 นี้ ไม่ได้ลอยไปตามอากาศและติดเพียงแค่สูดหายใจ
แต่เกิดจากสารคัดหลั่งในร่างกาย ทั้งน้ำมูก น้ำลาย
และเสมหะของผู้ป่วยที่ออกมาเมื่อไอจาม กระเด็นไปติดตามจุดต่างๆ
ซึ่งไม่อาจมองเห็นจึงอาจสัมผัสเชื้อติดมือมาโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นหากไม่ล้างมือเราเองก็คือผู้ที่นำเชื้อนั้นเข้าร่างกาย เช่น
การหยิบอาหารเข้าปาก หรือการขยี้ตา ก็ตาม อย่างไรก็ตราม
ในวันนี้นายวิทยาฯ ได้นำคณะลงพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ตราด ระยอง
และชลบุรี เพื่อดูความพร้อมของโรงพยาบาล
ดูการดำเนินงานกาสรจัดช่องพิเศษแก่ผู้ป่วยหวัด
และการจัดการความสะอาดและอุปกรณ์ เช่น
สบู่และเจลล้างมือแก้ผู้มาใช้บริการเพื่อไม่ให้โรงพยาบาลกลายเป็นแหล่งสะสม
โรค
=================================
สธ.เผยหญิงชาวราชบุรี วัย35 ปี เสียชีวิตจากหวัด2009 รายที่ 7
from MOPH-Hot news by อินโฟเควสท์
(04 ก.ค. 52)--กระทรวงสาธารณสุข เผยมี
มีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย
เป็นชาวราชบุรี เพศหญิง อายุประมาณ 35 ปี
ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากเชื้อดังกล่าวเพิ่มเป็น 7 รายแล้ว
สธ.ได้ขึ้นทะเบียนคนไทยที่ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก
134 ราย เป็นนักเรียน 115 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนรายละเอียด 19 ราย
ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,845 ราย และวันนี้ นายวิทยา
แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข
เดินทางแจกเอกสารแผ่นพับให้ความรู้การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัย ที่สถานีขนส่งหมอชิต สถานีรถไฟหัวลำโพง
ห้างสรรพสินค้า และประชาชนที่จะเข้าชมคอนเสิร์ตอัสนี วสันต์ ที่อิมแพค
เมืองทองธานี ช่วงเย็นวันนี้ โดย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า
ขณะนี้การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นช่วงวันหยุดยาว 5 วันนี้ จึงขอแนะนำให้นักเรียน ที่หยุดเรียน
ให้หยุดการเรียนกวดวิชาด้วย และขอให้อยู่ในบ้าน
เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคได้
นอกจากนี้วันหยุดหลายวันที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางออกจากกทม.เพื่อกลับบ้าน
หรือท่องเที่ยว จะนำเชื้อไปแพร่ด้วยหรือไม่ ดังนั้น ประชาชนต่างจังหวัด
ควรรู้จักวิธีการป้องกันตัว
เพื่อห่างไกลจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ กินร้อน
ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยหากเป็นไข้หวัด นายวิทยา
กล่าวอีกว่า ได้ให้โรงพยาบาลทุกจังหวัดเตรียมรับมือกับโรคนี้
ปรับมาตรการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่
โดยให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ
เพิ่มช่องทางให้บริการผู้ป่วยที่มีอาการของไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ไอ
จาม ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูก เจ็บคอ หรือท้องเสียเป็นการเฉพาะ
ในรายที่มีไข้สูง ไม่มีอาการแทรกซ้อน สามารถพักผ่อนที่บ้านได้
จะให้เจ้าหน้าที่ติดตามสอบถามอาการความคืบหน้าในวันรุ่งขึ้นว่าดีขึ้นหรือ
ไม่ และจำเป็นต้องมาโรงพยาบาลอีกหรือไม่ ทั้งนี้
ได้กำชับให้ทุกโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น
ผู้ที่มีโรคประจำตัว คือ โรคปอด หัวใจ เบาหวาน ฯลฯ
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
และหญิงตั้งครรภ์ เป็นกรณีพิเศษ หากไม่มั่นใจในการดูแลรักษา
ให้ประสานงานไปที่กระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งกรมการแพทย์ได้จัดตั้งคณะปรึกษาด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้หวัด
ใหญ่รวมทั้งโรคทางเดินหายใจอื่นๆ
เพื่อให้คำปรึกษาด้านการรักษาแก่แพทย์ทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนตลอด
24 ชั่วโมง

=================================
โพลเผยคนไทยมีพฤติกรรมดูแลตัวเอง-อยู่บ้านมากขึ้น หวั่นติดไข้หวัด2009
from MOPH-Hot news by อินโฟเควสท์
(04 ก.ค. 52)--สวนดุสิตโพล
เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009
ในประเทศไทยที่มีทั้งผู้ที่ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตตลอดมานั้น ไข้หวัด
2009 ที่ระบาดอยู่ขณะนี้
ทำให้ประชาชนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนมากน้อยเพียงใด
พบว่าส่วนใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลง 76.29% เพราะ
ต้องระมัดระวังตัวเองกลัวจะติดไข้หวัด2009
ดูแลลูกหลานญาติพี่น้องเพิ่มมากขึ้น เชื้อไข้หวัด2009
แพร่กระจายรวดเร็วและมีผู้เสียชีวิต รองลงมาก 23.71%
เห็นว่าไม่เปลี่ยนแปลง เพราะ เป็นโรคที่รักษาให้หายได้
ระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา สุขภาพแข็งแรง ส่วน
พฤติกรรมที่ประชาชนเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่ 30.24%
ระวังตัวไม่อยู่ใกล้กับคนที่เป็นไข้หวัด ไอ จาม รองลงมาคือ
ดูแลลูกหลานและญาติผู้ใหญ่ในเรื่องสุขภาพเพิ่มมากขึ้น 25.67% ล้างมือ ,
ล้างมือโดยใช้สบู่มากขึ้น 14.83% รับประทานอาหารนอกบ้านระมัดระวังขึ้น
อาหารสุกๆ ใหม่ๆ ร้อนๆ ใช้ช้อนกลาง 8.91%
ระวังตัวเองและลูกหลานไม่ได้เป็นไข้หวัด เช่น ไม่ตากแดด ไม่ตากฝน 6.75%
และอื่นๆ เช่น ดูแลสุขภาพให้เข้มแข็ง ออกกำลังเพิ่มขึ้น
ไม่ไปที่ชุมขนคนอยู่มากๆ หลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลกลัวจะติดเชื้อ ดู อ่าน
และสนใจข่าวเกี่ยวกับไข้หวัดมากขึ้น พักผ่อน นอน แทนการออกนอกบ้านมากขึ้น
ขณะที่พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันหยุดยาว จากกรณีไข้หวัด 2009 ระบาด
ส่วนใหญ่ 35.67% อยู่บ้านมากขึ้น ไม่อยากออกนอกบ้าน ไม่อยากไปต่างจังหวัด
กลัวติดไข้หวัด รองลงมาก 30.21%
หลีกเลี่ยงโดยไม่ไปแหล่งแพร่เชื้อหรือติดเชื้อง่าย เช่น ตลาด
ชุมชนที่แออัดคนมาก 14.83% พักผ่อน
นอนอยู่ที่บ้านแทนการเที่ยวเตร่เพื่อไม่ให้ติดเชื้อ
และทำให้ร่างกายแข็งแรง 11.38% ทำอาหารสุกๆ ร้อน ๆ
กินที่บ้านแทนการซื้อกับข้าว และกินอาหารนอกบ้าน
เลือกกินอาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด และ 7.91%
ระมัดระวังในการไปเที่ยวเตร่ ออกนอกบ้านโดยหลีกเลี่ยง แหล่งเสี่ยง
และบุคคลที่เสี่ยงต่อไข้หวัด 2009 สำหรับความเชื่อมั่นต่อการป้องกัน
รักษา และดูแล การแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ส่วนใหญ่ มั่นใจ 77.98% เพราะ
มีการเอาจริงเอาจังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข
และสื่อมวลชน ที่นำเสนอเตือนภัยตลอดเวลา แต่ความเห็น 22.02% ไม่มั่นใจ
เพราะ แพร่ระบาดง่าย รวดเร็วมีคนป่วยทุกวัน
และมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ สวนดุสิตโพล
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ
จำนวน 3,479 คน ในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 1-4 ก.ค. 52

=================================
สธ.ยันหวัด2009ในไทยไม่ดื้อยาเหมือน ตปท.
from MOPH-Hot news by ไอ.เอ็น.เอ็น.
นาย แพทย์ ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ยังไม่มี
กรณีเชื้อโรคไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่2009 ดื้อยาในประเทศไทย
เหมือนกับประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่หากไทยต้องการที่จะแก้ปัญหาการระบาดของโรคดังกล่าวให้รวดเร็วมากยิ่ง
ขึ้น ควรที่จะว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ
เข้ามาฝึกสอนและถ่ายทอดเทคโนโลยี อย่างใกล้ชิดในการผลิตวัคซีนให้กับไทย
เพื่อความมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้เห็นว่า
มีการเซ็นสัญญาไว้ล่วงหน้าแล้ว อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ไพจิตร์ ยอมรับ
มีความเป็นห่วง กรณีที่ประชาชนจะเดินทางไปร่วมทำบุญในช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชา
และวันเข้าพรรษากันมาก ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุให้มีการระบาดของเชื้อ
ซึ่งทางที่ดี หากพบว่า บุคคลใดมีอาการป่วยเป็นไข้ ก็ไม่ควรที่จะไป
แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรที่จะสวมใส่เครื่องป้องกัน เช่น
หน้ากากอนามัย หรือ มีเจลล้างมือ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้

=================================

สธ. วอนญาติและผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ร่วมมือให้แพทย์เก็บเชื้อตัวอย่าง
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวง สาธารณสุข วอนญาติและผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ร่วมมือให้แพทย์เก็บเชื้อตัวอย่าง เพื่อเพาะศึกษาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์
และเฝ้าระวังการดื้อยาของเชื้อไวรัส H1N1 นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้แพทย์ต้องการนำเชื้อไวรัสชนิดเอ
H1N1 ที่ได้จากผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
โดยเฉพาะในรายที่มีอาการหนัก
และผู้เสียชีวิตมาเพาะเพื่อวิเคราะห์ประเมินพัฒนาการของเชื้อ
ทดสอบการดื้อยา เพื่อให้สามารถพัฒนาการแพทย์ที่ทันต่อเชื้อ
หลังเริ่มพบการดื้อยาของเชื้อตัวนี้แล้วที่ประเทศญี่ปุ่น
แต่ติดปัญหาที่ญาติผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ยินยอมให้เก็บตัวอย่าง
เชื้อ โดยเฉพาะในรายของผู้เสียชีวิตจึงเป็นอุปสรรคในการศึกษาโรคดังกล่าวอย่าง
ละเอียด รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า
ขณะนี้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ได้รุนแรง
หรือเกิดการกลายพันธุ์
แต่ขอให้ประชาชนที่ป่วยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมนุมชน
โดยเฉพาะสถานที่ปิด และสถานที่ที่ติดเครื่องปรับอากาศ
ส่วนสถานที่เปิดอย่างเช่นวัดนั้น ไม่ใช่สถานที่เสี่ยงการระบาด
เพราะมีลักษณะโปร่ง จึงไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรคในปริมาณมาก
=================================
สธ.เตรียมหารือ รพ.เอกชน ขอความร่วมมือเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวง สาธารณสุข เตรียมหารือโรงพยาบาลเอกชนในวันพรุ่งนี้
เพื่อขอความร่วมมือเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 พร้อมย้ำบุคลากรของกระทรวงทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ นายวิทยา
แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันนี้ (9
ก.ค.52) ได้มอบหมายให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เชิญผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานครเพื่อหารือและขอความร่วมมือ
เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ที่มีข้อร้องเรียนว่ายังมีค่าใช้จ่ายสูง
ซึ่งตนเองจะขอความร่วมมือและไม่อยากให้ซ้ำเติมประชาชนในภาวะวิกฤต
หากไม่มีการให้ความร่วมมือก็จะศึกษาในข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการต่อไป
ส่วนกรณีการปิดประเทศเพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโรคนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาล
ต้องพิจารณา โดยนักระบาดวิทยาจะต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน
สำหรับกรณีการระบาดในรอบที่ 2 นั้นเป็นเพียงการคาดการณ์
อย่างไรก็ตามขอให้ความเชื่อมั่นว่ามาตรการดูแลการแพร่ระบาดของไทยนั้นเป็น
ที่ยอมรับของต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องให้ตนเองแสดงความรับผิดชอบต่อ
กรณีที่มีผู้เสียชิวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า
ตนเองจะไม่นำกระทรวงสาธารณสุขมาเล่นเกมการเมือง
และไม่อยากให้มีการกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พร้อมย้ำว่าขณะนี้
บุคลากรของกระทรวงได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ทุกคน

=================================

สธ.เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวง สาธารณสุขไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเทศต่าง ๆ
ในภูมิภาค เพื่อหาแนวทางการป้องกันที่ยังขยายการแพร่ระบาดออกไปอย่างต่อเนื่อง
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เปิดประชุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ที่โรงแรมอิมพีเรียลควีนปาร์ค
โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขประจำประเทศต่าง ๆ
ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก 8 ประเทศ จากทั้งหมด 11 ประเทศ เข้าร่วม
ประกอบด้วย ภูฎาน อินเดีย อินโดนีเซีย มัลดีฟส์ สหภาพพม่า เนปาล
ติมอร์เลสเต และไทย ซึ่งจะมีการระดมความคิดเห็น
แสวงหาความร่วมมือในการจัดการ
และศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 ในอนาคต ทั้งนี้
หลังจากจบการประชุม นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จะรายงานให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
=================================

รองปลัด สธ.เผยนายตำรวจวัย 52 ปี สังเวยหวัด 09 รายล่าสุด
from MOPH-Hot news by ASTV ผู้จัดการออนไลน์
นาย แพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า
กระทรวงสาธารณสุขได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลตำรวจ
พบผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 1 ราย
เป็นนายตำรวจ อายุ 52 ปี มีการติดเชื้อไวรัสชนิดเอ H1N1
ประกอบกับเป็นโรคไตวายระยะสุดท้ายแทรกซ้อน
เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน
และเสียชีวิตเมื่อวานที่ผ่านมา
ทำให้ล่าสุดประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 12 ราย
ขณะที่วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 211 ราย
ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโดยรวมทั่วประเทศ 2,925 ราย อย่างไรก็ตาม
มีผู้ที่รักษาหายแล้วจำนวน 2,702 ราย
=================================

รัฐสั่งปิดรร.กวดวิชาล้างหวัด
from MOPH-Hot news by เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์
ครม. สั่งปิดรร.กวดวิชาทั่วปท.13-28ก.ค.กันหวัด09ร้านเกมแค่ขอความร่วมมือ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้
มีมติเห็นชอบให้โรงเรียนกวดวิชาทั่วประเทศ ปิดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา
15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-28 ก.ค.นี้
เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา
ส่วนบรรดาร้านเกม
และอินเตอร์เน็ทรัฐบาลแค่ขอความร่วมมือไม่ได้สั่งปิดเหมือนโรงเรียนกวดวิชา
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานการศึกษาเอกชน(สช.)ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการสั่งปิด
โรงเรียนกวดวิชา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัด 2009 ว่า
โรงเรียนกวดวิชาส่วนใหญ่เป็นห้องแอร์ คับแคบ นั่งติดกัน
ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่าย โดยเฉพาะสถาบันกวดวิชาย่านพญาไท
และสยามที่มีรวมกันเป็นร้อยแห่ง ส่วนโรงเรียนรัฐบาล และเอกชน
ขณะนี้สามารถควบคุมการแพร่เชื้อได้ระดับหนึ่งแล้ว
ไม่จำเป็นต้องปิดทุกโรงเรียน นายมานิต นพอมรบดี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
สถานการณ์ขณะนี้กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดคือ เด็กนักเรียน
ที่มักไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนกวดวิชา และร้านเกม ทำให้เชื้อแพร่กระจาย
จึงต้องหามาตรการควบคุมเพื่อแยกผู้ป่วยออกจากสถานที่เหล่านี้
เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อ
นอกจากนี้ยังน่าเป็นห่วงโรงภาพยนตร์ที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้พอสมควร
เนื่องจากเป็นสถานที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง--จบ--
=================================
ผอ.องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชี้แนวทางการดำเนินการกับหวัด 2009 ของไทยมาถูกทาง
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
ผู้ อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุ
แนวทางของกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
2009 มาถูกทาง พร้อมย้ำ
ยอดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เป็นเพราะระบบการติดตามและรายงานของไทยมีประสิทธิภาพ นายแพทย์สำลี
เปลี่ยนบางช้าง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กล่าวถึงมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขไทย
ดำเนินการกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า เป็นทิศทางที่ถูกต้อง
ตามที่องค์การอนามัยโลกยึดถือมาโดยตลอด ซึ่งการที่บอกว่า
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่รุนแรง
ก็ไม่ใช่เป็นการบิดเบือนความจริงอย่างที่มีหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์
แต่การที่ไทยมียอดผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่อง
จนเป็นประเทศที่มียอดมากที่สุดในภูมิภาคนี้
เป็นเพราะระบบติดตามและรายงานที่มีประสิทธิภาพ
ซึ่งประเทศใกล้เคียงยังมีไม่เท่า
และพยายามที่จะเรียนรู้การจัดการระบบจากประเทศไทย ทั้งนี้ นายแพทย์สำลี
ระบุว่า ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก เพราะเชื้อไวรัสชนิดเอ H1N1
นี้ไม่ใช่เชื้อตัวใหม่ แต่เป็นตัวเก่าที่กลับมาระบาดรอบใหม่
ซึ่งวิธีป้องกันคือดูแลตัวเองให้แข็งแรง ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ของไทยวันนี้ พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายวัย 52 ปี
ซึ่งมีโรคประจำตัวคือ โรคไตวายเรื้อรัง
ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้รวมเป็น 12 รายแล้ว
ขณะที่ผู้ป่วยเพิ่มเติมวันนี้ พบอีก 211 ราย ทำให้ยอดสะสมรวม 2,925 ราย
ส่วนใหญ่หายดีแล้วเหลือเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น
ที่ยังต้องรอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล

=================================
สธ.ชี้ผู้เป็นหวัด80%ติดเชื้อพันธุ์ใหม่ ชี้คนไทย2.4ล้านเสี่ยง
from MOPH-Hot news by เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น
กรม ควบคโรคเผยคนไทย 2.4 ล้านคน เสี่ยงเสียชีวิตหากติดเชื้อหวัดพันธุ์
ระบุคนที่เป็นหวัดในช่วงนี้ เข้าข่ายติดเชื้อถึง 80% นพ.คำนวณ
อึ้งชูศักดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค
กล่าวภายหลังการประชุมหารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์
ใหม่ 2009 ว่าประเด็นสำคัญที่จะหารือ
คือทำอย่างไรให้สาธารณะเข้าใจต่อโรคและมาตรการป้องกันควบคุม
ไม่ให้เกิดความกังวลมากเกินไป และไม่ประมาณ เป็นการสร้างความสมดุล
นอกจากนี้จะมีการทำความร่วมมือทางเทคนิค
โดยทางองค์การอนามัยโลกจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารลงมาช่วยไทย
นพ.คำนวณ กล่าวว่า ข้อเสนอให้ปิดโรงเรียนกวดวิชา และร้านเกมเป็นเวลา 2
สัปดาห์นั้น เป็นของเสนอจากทางกระทรวงสาธารณสุขหลังจากหารือกับกระทรวงศึกษาธิการ
และเสนอไปยัง ครม. เพื่อเป็นการชะลอการแพร่ระบาดของโรคออกไปเท่านั้น
ไม่สามารถยุติการระบาดได้ แต่เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในคนพร้อมกันมากๆ
เรียกว่าเป็นการแตะเบรกเท่านั้น เป็นการขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการ
ต่อข้อซักถามว่า การจัดแสดงคอนเสิร์ตซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีคนชุมนุมมาก
จำเป็นต้องเลื่อนออกไปด้วยหรือไม่ นพ.คำนวณ กล่าว กระทรวงก็ไม่ได้ห้าม
เพียงแต่เป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น เช่นเดียวกับสถานบันเทิง ไนต์คลับ
ในการดูแลเจ้าหน้าที่ และสถานที่ของตนเอง
เน้นการให้ความรู้ผู้รับบริการว่า หากใครที่มีอาการหวัด ไม่สบาย
ก็ควรอยู่บ้าน เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อต่อไป
ส่วนระดับความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย
แม้ว่าจะมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่า
ความรุนแรงของโรคและอัตราการเสียชีวิตของไทยยังอยู่ในระดับเดียวประเทศอื่นๆ
โดยอยู่ระดับที่ 2 ใน 5 ระดับ ที่องค์การอนามัยโลกแบ่งไว้โดยระดับที่ 1
อัตราการตายจะอยู่ที่ 0.1% ระดับที่ 2 อัตราการตายจะอยู่ที่ 0.1% - 0.5%
ซึ่งประเทศไทยอัตราการตายยังอยู่ที่ 0.4% ระดับที่ 3 อัตราการตายอยู่ที่
0.5% - 1% ระดับที่ 4 อัตราการตาย 1%-2% และระดับที่ 5
มีอัตราการตายมากกว่า 2% ขึ้นไป
ซึ่งเป็นระดับที่จำเป็นต้องยุติการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายในประเทศ
เช่นเดียวกับที่เม็กซิโกทำมาแล้ว
อย่างไรก็ตามการที่เชื้อจะพัฒนาไปสู่ความรุนแรง หรือลดความรุนแรงลงนั้น
เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งหมด เนื่องจากไวรัสเป็นเชื้อที่ไม่หยุดนิ่ง
แต่จากประสบการณ์การแพร่ระบาดที่ผ่านมา
พบว่าส่วนใหญ่อัตราความรุนแรงจะลดลง นพ.คำนวณ กล่าวว่า
ขณะนี้จากการติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัด พบว่า
ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลลดลงไป จากเดิมที่นักวิชาการเคยคิดว่า
จะต้องประสบปัญหา 2 ด้าน
ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลและโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
แต่รายงานล่าสุดพบว่า ผู้ป่วยไข้หวัดที่เดินเข้าโรงพยาบาล 80%
เป็นโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ มีโรคไข้หวัดฤดูกาลน้อยมาก
ซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกันทั่วโลก ซึ่งในสหรัฐฯ ก็เช่นกัน
"ขณะนี้พบว่าบุคลากรทางการแพทย์มีจำนวนมากที่ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่เช่นกัน ซึ่งมี 10 รายที่ตรวจพบและเข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว
ยังไม่นับรวมผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่ป่วย" นพ.คำนวณ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า
ความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อในผู้เสียชีวิตแล้ว นพ.คำนวณ กล่าวว่า
ยังจำเป็นต้องตรวจหาเชื้ออยู่โดยเฉพาะในรายที่เสียชีวิตด้วยอาการปอดบวมและ
ที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลทางระบาดวิทยาและทางการแพทย์
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า
เหตุใจจึงมีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันทั้งที่เสียชีวิตไปแล้ว
ส่วนที่มีการรายงานพบผู้ป่วยเพิ่มวันละ 200-300 รายต่อวันนั้น
ไม่ได้มีความหมายอะไร
แต่หมายถึงขีดความสามารถในการคัดกรองผู้ป่วยเท่านั้น
จากข้อมูลผู้เสียชีวิต 11 ราย (จากการรายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ค.)
ในจำนวนนี้ 9 ราย มีโรคประจำตัวที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
ดังนั้นมาตรการจากนี้จะมีจะมีการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวอย่าง
ใกล้ชิด ซึ่งทั้งประเทศมีประมาณ 2.4 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
1.3 ล้านคน ผู้ป่วยโรคปอด 131,000 คน ผู้ป่วยโรคหอบหืด 380,000 คน
ผู้ป่วยโรคหัวใจ 300,000 คน ผู้ป่วยอัมพาต 100,000 คน
ผู้ป่วยที่เปลี่ยนไต 60,000 คน และผู้ป่วยมะเร็ง 10,000 คน
"ผู้ป่วยจำนวนนี้ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ซึ่งหากในจำนวนนี้มีอาการหวัด
เมื่อเดินไปพบแพทย์จะได้รับยาโอเซลทามีเวียร์ทันที โดยไม่ต้อรับการตรวจ
หรือต้องเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อน
นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนด้วย" โฆษกกรมควบคุมโรค
กล่า

=================================

สธ.ยืนยันผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดพันธ์ใหม่ 14 ราย
from MOPH-Hot news by เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น
นาย แพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย
กระทรวงได้ยืนยัน ผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด2009เพิ่มอีก 3 ราย
รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสะสม 14 ราย โดยรายแรกเป็นชาย อายุ 52 ปี
รักษาตัวที่รพ.ตำรวจ เป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เข้ารักษาที่ รพ. วันที่ 29 มิ.ย. และเสียชีวิตวันที่ 8
ก.ค.ด้วยอาการไข้หวัด แต่พบ
ภาวะแทรกซ้อนปอดอักเสบเสียชีวิตด้วยอาการไตวาย รายที่2 ชายอายุ 45 ปี
เข้ารับรักษาเมื่อวันที่ 6 ก.ค. โดยผู้ป่วยรายนี้มีอาการไข้มาแล้ว
5วันก่อนเข้ารพ. ซึ่งเมื่อถูกนำตัวส่งเข้า รพ.เสียชีวิตในวันเดียวกัน
ตรวจพบมีภาวะปอดบวม ไม่ได้รับรายงานว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ส่วนราย
ที่3 เป็นผู้หญิงอายุ 17 ปี เข้ารักษาตัวที่ รพ. ศรีนครินทร์ จ. ขอนแก่น
โดย ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยประจำของ รพ. ศรีนคริทร์
รักษาด้วยโรคผิวหนังแข็งมาตลอดแต่เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 3 ก.ค.
เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผลตรวงจยืนยันมีเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ใหม่
=================================
ครม. เห็นชอบ 3 มาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
คณะ รัฐมนตรี เห็นชอบ 3 มาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
พร้อมอนุมัติงบประมาณ 138 ล้านบาท
เป็นค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้ลูกจ้างประจำในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายแพทย์ ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
มีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 3 มาตรการ ประกอบด้วย
1.มาตรการควบคุมป้องกันในแหล่งแพร่ระบาดของโรค โดย ปิดโรงเรียนกวดวิชา
ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13-28 กรกฎาคม 2552
และขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านเกม-อินเทอร์เน็ต
หากมีผู้ป่วยหรือมีอาการเป็นหวัดให้งดใช้บริการ
กรณีพนักงานป่วยเป็นไข้หวัด ให้หยุดพักโดยไม่นับวันลา
2.มาตรการความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยให้กรมประชาสัมพันธ์
ประชาสัมพันธ์แก่ทุกภาคส่วนเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการระบาดของ
โรคและการป้องกัน 3.มาตรการดูแลรักษาพยาบาล
ให้สถานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชนเตรียมความพร้อมใน
การรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคโดยการจัดห้องแยกผู้ป่วยให้เพียงพอ
และสามารถส่งต่อผู้ป่วยได้ทันที

=================================
สธ.ประชุม WHO เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เร่งแก้ไขโรคหวัดพันธุ์ใหม่
from MOPH-Hot news by เว็บไซต์แนวหน้า
นาย วิทยา แก้วภราดัย รมว.กระทรวงสาธารณสุข
เปิดเผยความคืบหน้าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1
ภายหลังเปิดประชุม 8
ประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรื่องการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในภูมิภาคและความเข้มแข้งใน
การป้องกันควบคุมโรค เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์
ปาร์ค กทม. ว่า ขณะนี้การระบาดของประเทศไทย จัดอยู่ในระดับ 2
ซึ่งอัตราการตายอยู่ที่ร้อยละ 0.1-0.5
คนทั่วไปยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้
เพียงแต่ให้ดูแลตนเองตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ
ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อเดินทางไป
ดูแลผู้ป่วยอาการหนักร่วมกับทางจังหวัด อย่างไรก็ดี
ขณะนี้ประเทศไทยมีประชาชนที่เป็นโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรงหาก
ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เท่าที่สำรวจและขึ้นบัญชีไว้ ประมาณ 2.4
ล้านคน ได้แก่ โรคปอด 1.3 แสนคน โรคหอบหืด 3.8 แสนคน โรคหัวใจ 3 แสนคน
อัมพาต 1 แสนคน เบาหวาน 1.3 ล้านคน มะเร็ง 10,000 คน ไตวาย 60,000 คน
รวมทั้งคนอ้วนน้ำหนักตัวเกิน 100 กิโลกรัมด้วย
ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนกลุ่มดังกล่าว เมื่อมีอาการไข้หวัด เช่น
ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก อ่อนเพลีย
ขอให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติโรคประจำตัวให้ทราบ
เพื่อให้ยาต้านไวรัสทันที
ซึ่งในการประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้บริหารโรงพยาบาลทุกจังหวัด
พรุ่งนี้ จะได้มอบเป็นนโยบายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศทั้งรัฐเอกชน
เพื่อให้ความรู้เชิงลึกกับกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ที่ขึ้นทะเบียนไว้ นายวิทยา
ยังกล่าวต่อว่า ในการประชุมประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
8 ประเทศ ได้แก่ ไทย ภูฎาน อินโดนีเซีย อินเดีย มัลดีฟว์ พม่า เนปาล และ
ติมอร์เลสเต นับว่าเป็นประโยชน์มาก โดยจะประชุมทั้งหมด 3 วัน
มีการนำเสนอสถานการณ์การระบาดของโรค มาตรการการป้องกัน
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยุทธศาสตร์การทำงาน การเฝ้าระวังโรค
ยารักษารวมถึงการผลิตวัคซีน และระบบการแลกเปลี่ยนยาระหว่างประเทศสมาชิก
ซึ่งจะมีการจัดประชุมกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานแต่ละประเทศด้วย
นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวภายหลังเปิดอบรมด้านการรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
แก่แพทย์โรงพยาบาลเอกชนและกทม.และปริมณฑล ที่โรงแรม มิราเคิล ว่า
โรคนี้เป็นโรคระบาดติดต่อรวดเร็วจากคนสู่คน
โดยโรคจะมีความรุนแรงในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว
ซึ่งมีประมาณร้อยละ 5 ที่ต้องได้รับยาต้านไวรัส ที่เหลือหายเองได้
สำหรับรายที่เสียชีวิตที่ผ่านมา
นอกจากจะมีโรคประจำตัวเป็นส่วนใหญ่แล้วยังพบว่า 1 ใน 3
มีสาเหตุจากมาพบแพทย์ช้า ในวันนี้จึงได้หารือกับทีมแพทย์โรงพยาบาลเอกชน
ในประเด็นที่เป็นปัญหา 3 เรื่อง ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล มาตรฐานการรักษา
และการส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ซึ่งเรื่องนี้ได้ขอให้ยึดตามมาตรฐานราคากลางที่กำหนดไว้
รวมทั้งยึดมาตรฐานการรักษาตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
และจัดส่งรายงานข้อมูลผู้ป่วยโรคไข่หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ
ให้สำนักระบาดวิทยา เพื่อเข้าสู่ระบบเดียวกัน
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่ตรงตามสิทธิการรักษา
ซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย

=================================
องค์การเภสัชกรรม เตรียมเพิ่มปริมาณสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ 10 ล้านเม็ด
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
องค์การ เภสัชกรรม
เตรียมเพิ่มปริมาณสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์จำนวน 10 ล้านเม็ด
ส่วนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คาดว่า
จะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.)
กล่าวถึงการสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์
สำหรับรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า
ขณะนี้องค์การเภสัชกรรม ได้สำรองยาไว้ 2 ล้านเม็ด กรมควบคุมโรค
สำรองไว้อีกประมาณ 3 ล้านเม็ด ทั้งนี้ทาง องค์การเภสัชกรรม
จะเพิ่มปริมาณสำรองยาอีก 10 ล้านเม็ดโดยใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุข
ได้ให้สำรองยาส่วนหนึ่งสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังจำนวน 2.4 ล้านคน
โดยจะเริ่มต้นสำรองยาไว้ที่ 10 ล้านเม็ด สำหรับผู้ป่วย 1 ล้านคนก่อน
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของวัคซีน
ได้ให้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตนครปฐม
เตรียมความพร้อมการผลิตของโรงงานนำร่อง
ที่มีกำลังการผลิตวัคซีนสูงสุดจำนวน 2.8 ล้านโดสต่อเดือน
โดยคาดว่าเดือนพฤศจิกายน จะสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้

=================================
สธ.เตรียมปรับระบบจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรแพทย์
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวง สาธารณสุข เตรียมปรับระบบจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์
หลังแพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
เรียกร้องให้เพิ่มการจ่ายค่าตอบแทน นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงข้อสรุปหลังหารือร่วมกันของทุกฝ่าย
กรณีการจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ หลังกลุ่มแพทย์
นำโดยแพทย์หญิงเชิดชู อริยศรีวัฒนา
ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแห่งประเทศไทย
และที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
เรียกร้องให้เพิ่มการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป
โดยข้อสรุปจะพิจารณาให้จ่าย 2 ส่วน ได้แก่ จ่ายตามอายุการปฏิบัติงาน
และจ่ายตามภาระงาน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ชั่วคราวแค่ 15 เดือน จนถึงวันที่
30 กันยายน 2553 และจะปรับใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มบุคลากร
ทั้งบริหาร บริการ และวิชาการ ให้มีผลใช้ทันในเดือนตุลาคมปีหน้า
ทั้งนี้หลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าว
สำหรับการจ่ายตามอายุการปฏิบัติงาน ได้แก่ แพทย์/ทันตแพทย์ทำงานปีที่ 1-3
เดือนละ 10,000 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป 15,000 บาท เภสัชกรปีที่ 1-3 เดือนละ
3,000 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป 4,500 บาท พยาบาลวิชาชีพและสาขาอื่น ๆ
ระดับปริญญาตรี รับเท่ากันคือปีที่ 1-3 เดือนละ 1,200 บาท ปีที่ 4 ขึ้นไป
1,800 บาท ส่วนบุคลากรต่ำกว่าปริญญาตรีปีที่ 1-3 เดือนละ 600 บาท ปีที่ 4
ขึ้นไป 900 บาท ส่วนการจ่ายตามภาระงาน
จะพิจารณาที่ความยุ่งยากซับซ้อนแตกต่างกัน
ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
และมีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 เช่นกัน ทั้งนี้
ในส่วนของโรงพยาบาลสังกัดกรมวิชาการต่างๆ ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งเป็นนิติบุคคล
สามารถนำหลักเกณฑ์ตามประกาศดังกล่าวนี้ไปใช้เป็นแนวทางจัดทำหลักเกณฑ์ของ
หน่วยงานได้ ตามระเบียบเงินบำรุงของกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งอธิบดีเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ
==========สธ.สั่งตั้ง สสจ.ทั่วประเทศเป็นมิสเตอร์ H1N1
หวังควบคุมสถานการณ์โรคไข้หวัด2009
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
กระทรวง สาธารณสุข สั่งตั้งสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเป็นมิสเตอร์ H1N1
หวังควบคุมสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้ได้ นายวิทยา
แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกประชุมสาธารณสุขจังหวัด
(สสจ.) ทั่วประเทศ
เพื่อทำความเข้าใจมาตรการควบคุมการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
โดยได้แต่งตั้งให้ สสจ.ทั้งหมดเป็นมิสเตอร์ H1N1 ลงให้ความรู้ประชาชน
และรายงานข้อมูลตรงเกี่ยวกับโรคมายังศูนย์กลางโดยเร็วที่สุด
เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์ได้แบบนาทีต่อนาที
ส่วนกรณีข้อเสนอของอดีตรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ออกมาโจมตีมาตรการรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ของรัฐบาลว่าล้มเหลว เพราะนโยบายการเมืองและสาธารณสุขไม่ชัดเจนนั้น
ยืนยันไม่เคยใช้การเมืองวางมาตรการควบคุมโรค
แต่ทุกมาตรการออกมาจากการพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั้งหมด
ส่วนข้อเสนอที่ต้องการให้รัฐบาลสั่งปิดโรงเรียนทั้งหมด
ไม่เฉพาะโรงเรียนกวดวิชานั้น
จะนำเรื่องให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาก่อนเสนอให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์
รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาในที่ประชุมประเมินสถานการณ์บ่ายวันนี้
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 วันนี้
ได้รับรายงานขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 146 ราย
ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,071 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยหนัก 27 ราย
ซึ่งแพทย์ต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนที่เหลืออีก 2,735 ราย
หายดีแล้ว สำหรับกลุ่มผู้ป่วยมากสุดคือ เยาวชนอายุต่ำกว่า 25 ปี 125 ราย
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตนั้น วันนี้ยังไม่พบเพิ่มเติม ยอดจึงนิ่งอยู่ที่ 14
ราย=======================

=================================
สธ.คุมเข้มผู้ป่วยเด็กและเยาวชนสวมหน้ากากอนามัย พร้อมยกย่องเป็น "ฮีโร่"
from MOPH-Hot news by กรมประชาสัมพันธ์
นาย วิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กล่าวหลังเป็นประธานเปิดโครงการ "
ฮีโร่พันธุ์ใหม่..ใส่ใจสวมหน้ากากอนามัย"
เพื่อขยายความรู้หยุดการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในกลุ่มผู้ป่วย
เด็กและเยาวชน เพราะเด็กและเยาวชนใช้เวลาส่วนใหญ่คลุกคลีใกล้ชิดอยู่ร่วมกัน
ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา หรือแม้กระทั่งตามคอนเสิร์ตต่าง
ๆ ก็ตาม ซึ่งถ้าทุกหน่วยงานให้ความสำคัญในการควบคุมให้ความรู้แก่เด็ก
จะสามารถช่วยชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้
สำหรับผู้ป่วยที่สวมหน้ากากอนามัยถือได้ว่าเป็น ฮีโร่
เพราะผู้ป่วยที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงอยากให้ยอมรับและยกย่อง
ไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
เนื่องจากเป็นเรื่องที่สังคมจะต้องตระหนักร่วมกัน ด้านนายแพทย์มนูญ
ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยาฯ กล่าวว่า
จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 พบว่า
กลุ่มผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มากที่สุด คือ กลุ่มเด็ก 6-15 ปี
มีจำนวนผู้ติดเชื้อถึงร้อยละ 80
อีกทั้งยังพบคนปกติจะนิยมสวมหน้ากากอนามัยมากกว่าคนป่วย
ซึ่งไม่ได้เป็นการช่วยป้องกันการแพร่เชื้อแต่อย่างใด
โดยวิธีการที่ถูกต้อง คือ ให้สวมปิดปากและจมูกในผู้ป่วย
และต้องสวมตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น
เวลาพูดไม่จำเป็นต้องขยับหน้ากากลง
เมื่อขยับหรือถอดหน้ากากออกต้องล้างมือทุกครั้ง
และให้ทิ้งหน้ากากที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด
เพราะหากใช้ไม่ถูกต้องก็ไม่สามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้
=================================
หมอเตือนภัยขากรี๊ดคอนเสิร์ต เผยคนติดหวัดเข้าชม 5 %
from MOPH-Hot news by ASTV ผู้จัดการออนไลน์
แพทย์ วิงวอนคนมีโรคประจำตัวหลีกเลี่ยงชมคอนเสิร์ตเด็ดขาด เสี่ยงติดหวัด
2009 ชี้จัดคอนเสิร์ต 1 รอบ 5% เป็นคนป่วย
เตือนกลับจากคอนเสิร์ตเริ่มป่วยรีบพบแพทย์ด่วน
ระบุปิดกวดวิชาช่วยชะลอการแพร่เชื้อ 10-20% นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์
ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 10 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
ขณะนี้กำลังพิจารณาออกคำแนะนำสำหรับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรไปชมคอนเสิร์ตอย่างยิ่ง
เนื่องจากพบว่า ในการแสดงคอนเสิร์ต 1 รอบ มีคนเข้าชมประมาณ 12,000 คน
ในจำนวนนี้มี 5% ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 หรือประมาณ
500 คน อยู่ปะปนในสถานที่จัดคอนเสิร์ต ซึ่งมีความแออัด
ยัดเยียดและต้องใช้เวลาอยู่รวมกันอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงอาจไม่เป็นไร
แต่หากเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวถือว่ามีความเสี่ยงติดเชื้ออย่างมาก
"คนส่วนใหญ่ที่ไปชมคอนเสิร์ตเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน
ซึ่งหากมีโรคประจำตัวไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม ทั้งโรคหอบหืด โรคหัวใจ
ภูมิคุ้มกันต่ำฯลฯ วิววอนว่าอย่าออกไปชมคอนเสิร์ต
แต่ถ้าจะไปให้ได้และกลับมาจากการชมคอนเสิร์ตแล้วมีอาการเป็นป่วยขึ้น
ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีส่วนมาตรการงดการจัดคอนเสิร์ตในขณะนี้ที่เป็นช่วงที่มี
การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างมาก
อย่างในประเทศญี่ปุ่นนั้น
สำหรับประเทศไทยจะต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง"นพ.คำนวณกล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จากตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
ทั่วประเทศ ที่มีการขึ้นทะเบียนจำนวนกว่า 3,000 คน
แต่คาดว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณกว่า 1
แสนในจำนวนนี้มีข้อมูลสำนักระบาดยืนยันชัดเจนว่า เป็นนักเรียนสูงถึง
70-80% แต่ไม่สามารถแยกได้ว่า ติดเชื้อมาจากโรงเรียนกวดวิชาจำนวนเท่าใด
หากต้องการตัวเลขที่ชัดเจนต้องทำการศึกษาวิจัย แต่ที่ยืนยันได้ คือ
จากการสอบสวนโรคพบว่า
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในช่วงนี้มีความเชื่อมโยงในจุดร่วมเดียวกันคือการไปเรียน
โรงเรียนกวดวิชา นอกจากไปเรียนหนังสือตามปกติที่โรงเรียน
ซึ่งแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันอย่างในประเทศญี่ปุ่นพบว่าเด็กนักเรียนในระ
แวกเดียวกัน มีจุดร่วมเดียวดันคือโดยสารรถรับส่งนักเรียนโรงเรียนต่างๆ
ทำให้เป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นต้น
"ขณะนี้โรงเรียนยังเป็นแหล่งที่มีการแพร่เชื้ออันดับแรก
และใช้มาตรการให้ครูเช็คนักเรียนที่มีอาการป่วยให้แยกอยู่ห้องพยาบาลและหยุด
อยู่บ้าน และให้ปิดโรงเรียนหากพบว่านักเรียนป่วยเกินกว่า 15%
หรือถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงได้จึงให้ปิดโรงเรียน
ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามจะให้มีการใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในโรงเรียนกวดวิชา
เนื่องจากโรงเรียนกวดวิชาไม่มีการเช็คชื่อ ไม่มีครูพยาบาล
ห้ามเด็กที่ป่วยไม่ให้เข้าเรียน แต่ไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้มีปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องเช่น ร้านอินเทอร์เน็ต เกม
คอนเสิร์ต"นพ.คำนวณกล่าว นพ.คำนวณ กล่าวด้วยว่า
ทั้งนี้หลังจากที่มีการปิดโรงเรียนกวดวิชาครบ 15 วันแล้ว
จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคำนวณทางคณิตศาสตร์หากปิดโรงเรียนกวดวิชาได้
จะช่วยชะลอความเร็วในการแพร่ระบาดประมาณ 10-20%
และจะเห็นผลอย่างชัดเจนในจังหวัดที่เริ่มมีการแพร่ระบาดตามหัวเมืองต่างๆ
=================================

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น