++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จากแม่ยกสู่แกนนำเชียงใหม่รุ่น 2 'ป้าขาว-ป้าปุก' แม่ญิงแถวหน้า

จากแม่ยกสู่แกนนำเชียงใหม่รุ่น 2 'ป้าขาว-ป้าปุก' แม่ญิงแถวหน้า


รายงาน

เป็น ที่รับรู้กันว่าเมืองเชียงใหม่เป็นฐานที่มั่นทางการเมืองของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
และคนเสื้อแดงจึงส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การมุ่งใช้กำลังคุกคามไปจนถึงการทำร้ายร่างกายที่คนเสื้อแดงจัดการกับฝ่าย
ตรงกันข้าม ทำให้การทำงานของคนเสื้อเหลืองที่เชียงใหม่จึงยากลำบากกว่าพื้นที่อื่น

ระหว่างการชุมนุม 193 วันของพันธมิตรฯ
มวลชนคนเสื้อเหลืองในเชียงใหม่ถูกข่มขู่ คุกคามสารพัดรูปแบบ
ทำให้การทำงานต้องใช้วิธีการตั้งเป็นคณะทำงานที่ไม่เปิดเผยตัว
ยกเว้นแกนนำดั้งเดิมที่ประกาศเปิดตัวมาตั้งแต่ยุคปี 2549 เช่น
หมี-สุริยันต์ ทองหนูเอียด เจี๊ยบ-ชมพูนุท โทสินธิติ ศ.เฉลิมพล แซมเพชร
รวมไปถึงแม่เพลงล้านนาอย่าง สุนทรี เวชานนท์ เป็นต้น

แท้ จริงแล้วการทำงานของพันธมิตรฯเชียงใหม่ระหว่าง 193
วันมีคณะทำงานฝ่ายต่าง ๆ ที่เป็นแกนกลางมากกว่า 20 คน
การระดมพลเข้ากรุงเทพฯ ประสานรถ ประสานแหล่งสนับสนุน
จัดทำเว็บไซต์เครือข่าย http://www.lanna-pad.net/ จัดทำหนังสือเผยแพร่
และจัดเวทีต่าง ๆ
หลายครั้งล้วนแต่เป็นผลงานของทีมงานที่ไม่เปิดเผยตัวเองเป็นกำลังสำคัญ

จนกระทั่งห้วงเวลาแห่งการต่อสู้ 193 วันได้ผ่านพ้นไป
บทบาทหน้าที่ของมวลชนพันธมิตรฯในระดับพื้นที่คือ
การสร้างองค์กรและเครือข่ายที่เข้มแข็งรองรับภารกิจการเมืองภาคประชาชน
และ พรรคการเมืองใหม่

เครือ ข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเชียงใหม่
จึงได้จัดประชุมเพื่อปรับโครงสร้างเตรียมรองรับพรรคการเมืองใหม่เมื่อวันที่
28 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยจะมีแกนนำบางส่วนที่แยกไปทำงานให้แก่พรรคที่จัดตั้งขึ้น
ขณะเดียวกันได้มีการเลือกตัวแทนที่จะมาเป็นแกนทำงานชุดใหม่ แทนชุดของ
สุริยันต์ ทองหนูเอียด ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ฯลฯ

กับเพื่อนพันธมิตรฯเชียงใหม่

ปรากฏว่ารายชื่อที่สมาชิกได้ร่วมกัน
เสนอขึ้นมาล้วนแต่เป็นสุภาพสตรี และมีบทบาทในฐานะแม่ยกรายสำคัญทั้งสิ้น
จึงมีการขนานนามแกนนำรุ่น 2 ว่า "รุ่น 6 เจ๊เชียงใหม่" ประกอบด้วยเจ๊ๆ
และป้า ๆ ดังต่อไปนี้ เจ๊ผ่อง เจ๊จุก ป้าปุก ป้าขาว
และอีกสองแกนนำจากเครือข่ายต่างอำเภอคือ เจ๊แดง และ เจ๊กุ้ง จาก 3
อำเภอตอนบน

ภารกิจหลักของแกนนำรุ่นใหม่ในยุคที่ไม่ต้องยกขบวนไปร่วมชุมนุมที่
ส่วนกลางก็คือการมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กร
ซึ่งดูเหมือนจะสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของบรรดา 6 เจ๊
ที่ล้วนแต่เป็นแม่ยกตัวเอ้ มีงานกิจกรรมแต่ละครั้งแม่ยก 6
เจ๊เหล่านี้แหละที่เป็นผู้เชิญชวนคนมาเข้าร่วม
และจัดหาอาหารการกินเอาไว้ตลอดเวลา

ป้าปุก - "ขบวนการพันธมิตรฯจะช่วยให้เชียงใหม่ดีกว่าที่เป็นอยู่"

สาวเชียงใหม่ชื่อ ป้า ปุก นิตยาพร สุวรรณชิน แม่ญิงวัย 63
ปีคนนี้ไม่ธรรมดา หลังจากจบการศึกษาด้าน Office Management จากอเมริกา
ส่วนสามีผู้เป็นสีเหลืองเต็มตัวก็จบสถาปนิกจากอเมริกาเช่นเดียวกัน
เคยจับธุรกิจหลายรูปแบบไม่ว่างานรับเหมา ค้าขาย ปัจจุบันมีฟาร์มไก่ไข่
และมีร้านค้าอยู่กลางเมืองเชียงใหม่

ด้วย ความที่ลูก ๆ โตแล้วคนหนึ่งทำงานที่อเมริกา
อีกคนกลับมาจากฝรั่งเศส ทำให้ป้าปุก เดินทางขึ้นล่องเชียงใหม่-กรุงเทพฯ
ระหว่างการประท้วง 193 วันเป็นว่าเล่น แรก ๆ
ก็ไปคนเดียวระยะหลังได้รู้จักเพื่อน ๆ ที่มาจากเชียงใหม่ด้วยกัน
ทำให้เกิดเครือข่ายเมื่อมีการทำกิจกรรมในนามพันธมิตรฯเชียงใหม่
ป้าปุกจึงไม่เคยพลาดที่จะนำอาหารและไข่ต้มจากฟาร์มตัวเองไปร่วมอยู่เสมอ

ป้าปุก เป็นคนในตระกูลเก่าแก่มีเพื่อนจากโรงเรียนเรยินาเชลีวิทยาลัยจึงกว้างขวางใน
แวดวงคนสีเหลือง เมื่อมีการบริจาคจัดกิจกรรมแต่ละที
ป้าปุกมักจะได้เงินจากเครือข่ายเพื่อนฝูงที่ประสงค์ออกเงินไม่ประสงค์เปิด
ตัวอยู่เสมอ

ป้าปุก ใน ฐานะแกนนำพันธมิตรฯเชียงใหม่รุ่น 2 กล่าวว่า
ความที่ตนเกิดในเชียงใหม่เห็นเชียงใหม่มาตลอด
รับรู้ว่ามีเรื่องที่ไม่ดีงาม การทุจริตคอร์รัปชัน
นักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาโกงกิน
มีการทำผิดกฎหมายด้วยอำนาจของข้าราชการหรือนักการเมือง ดังนั้น
หากประชาชนมารวมกลุ่มกันให้เข้มแข็งด้วยจุดหมายดีงามที่คล้ายคลึงกัน
จะช่วยให้บ้านเมืองของเราดีขึ้นมาได้
เพราะจะเป็นพลังในการตรวจสอบหรือคัดค้านการกระทำผิด

ในฐานะที่รับไม้แกนนำมายอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่พันธมิตรฯเชียงใหม่
จะทำงานได้ราบรื่น การไปทำความเข้าใจกับคนกลุ่มต่าง ๆ
ที่ได้ไปเจอจะไม่เอาสีเป็นที่ตั้ง
แต่จะอธิบายความถูกต้องดีงามเป็นที่ตั้ง

สิ่งที่ป้าปุกถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากคือ
การสื่อสารไปยังเครือข่ายและสังคม หากมีสื่อเช่น
วิทยุชุมชนของตนเองได้จะเป็นการดีมาก
ซึ่งเรื่องดังกล่าวคณะทำงานได้หารือกันบ่อยครั้งมาก

ทีมงานในการขับเคลื่อนการเมืองใหม่ของจ.เชียงใหม่
ป้าขาว - "ป้าอยากไปคุยกับเพชรวรรต"

ป้า ขาว สัญญา ศรีไสยเพชร ปัจจุบันอายุ 55 ปี
ทำงานที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่
ป้าขาวได้รับการเลือกให้เป็นแกนนำรุ่นใหม่ด้วยความที่ไปปรากฏกายในทุกงานที่
พันธมิตรฯจัดกิจกรรม
ไม่เท่านั้นยังตระเวนไปตามบ้านหรือที่ทำงานของชาวสีเหลืองอยู่เป็นนิจ
บ้างก็ไปขอเงินบริจาคสมทบทำกิจกรรมกรณีที่มีผู้ติดงานไปร่วมไม่ได้
แต่เหนืออื่นใดป้าขาวเป็นคนปากกับใจตรงกัน
เป็นผู้หญิงแถวหน้าแบบไม่กลัวใคร

ป้าขาวไม่ใช่คนเชียงใหม่โดยกำเนิด เคยมีธุรกิจที่กรุงเทพฯ
และชอบเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังยุค 14 ตุลา 2516
ป้าขาวไปช่วยงานกลุ่มกรรมกร ตั้งกลุ่มชื่อว่า "15 ตุลา"
ไปร่วมช่วยกรรมกรที่เราเห็นว่าได้รับความไม่ชอบธรรม เช่น
ไปช่วยประท้วงโรงงานทอผ้าแห่งหนึ่งนาน 3 เดือน ขนาดที่เคยไปนอนขวางรถของ
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีในยุคนั้นมาแล้ว

ป้าขาวเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรฯเชียงใหม่ระหว่างเดินทางไป
ร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ และได้พบปะกับชาวเชียงใหม่ที่อยู่ที่นั่น
จนที่สุดกลายเป็นคณะทำงานวงในสุดที่ขับเคลื่อนพันธมิตรฯเชียงใหม่อย่างเงียบ
ๆ ไม่เปิดตัว แต่ก็ได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมสำคัญ ๆ บ่อยครั้ง
เช่นล่าสุดเป็นตัวแทนของพันธมิตรฯเชียงใหม่เข้าร่วมประชุมหารือกำหนดจัดงาน
รำลึก 193 วันที่บ้านพระอาทิตย์

ป้าขาวบอกว่า ใน
ฐานะแกนนำใหม่จะต้องพยายามทำให้องค์กรของเราเข้มแข็ง
และก็ยอมรับว่าเมืองเชียงใหม่เป็นเมืองสีแดง ยากที่จะไปเปลี่ยนแปลงเขา
มีทางเดียวคือก้มหน้าก้มตาทำงานของเราให้ดีที่สุด

ป้าขาวกล่าวต่อว่า
การทำกิจกรรมที่ผ่านมาคนไม่กล้าเข้าร่วมมากเพราะกลัวความไม่ปลอดภัย
สิ่งแรกที่ป้าขาวคิดคือเรื่องการให้ความมั่นใจแก่พี่น้องที่จะเข้ามาร่วม

ป้าขาว ยังบอกว่า ป้าอยากจะไปพบเพชรวรรต (วัฒนพงศ์ศิริกุล
แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51) เพื่อนั่งคุยกันกับเขาแบบดี ๆ
อธิบายว่าขอต่างคนต่างอยู่ได้ไหม
มิฉะนั้นเมืองเชียงใหม่จะบอบช้ำยิ่งไปกว่านี้
เวลาเขาจัดงานไม่มีคนสีเหลืองไปข้องแวะเลย
แต่พอเราจัดงานแม้จะเป็นงานวิชาการเขาก็มารังควานมันไม่ถูก

ในฐานะแกนนำเราต้องทำให้สมาชิกศรัทธาเรา
เราต้องให้ความมั่นใจแก่เขาว่าเราเข้มแข็งเพียงพอ แม้จะเป็นผู้หญิงก็ตาม

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000078177

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น